เปิดผลสำรวจคนกทม. 81% กลัวโควิด-19 ขณะที่ 36% คิดว่า รบ.คุมสถานการณ์ได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บ้านสมเด็จโพลล์เผยผลสำรวจคนกรุงเทพฯ 1,113 คน พบ 69% คิดว่าปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ทำเศรษฐกิจชะลอตัว  

วันที่ 7 มี.ค. ผศ. ดร. สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,113 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 3 - 5 มีนาคม 2563  โดยในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่า ประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3%  โดยผลการสำรวจต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

รัฐบาลจัดตั้งกองทุน เปิดรับบริจาคแก้ปัญหาโควิด-19

ราชกิจจาฯ ประกาศ " 4 ประเทศ" พื้นที่โรคติดต่ออันตราย

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ความรู้สึกตื่นตกใจทุกครั้งที่ท่านได้ยินข่าวเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ร้อยละ 76.9   และเกิดความกลัวการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร้อยละ 81   และมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวันจากโรคติดเชื้อไวรัสร้อยละ 57.9 และทราบวิธีการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019   โดยการสวมหน้ากากอนามัย ทานอาหารที่ปรุงสุก ต้องใช้ช้อนกลาง เมื่อทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ ล้างให้สะอาด และหลีกเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง ร้อยละ 80.6

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ทราบว่ามีการประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2563 ร้อยละ 68.7 และทราบว่า กรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ของโรคติดต่ออันตราย ให้คณะกรรมการโรคติดต่อฯมีอำนาจ สั่งปิดสถานที่ต่างๆ ไว้เป็นการชั่วคราว สั่งให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคหยุดการประกอบอาชีพชั่วคราว และสั่งห้ามผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคเข้าไปในสถานที่บางแห่ง ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ร้อยละ 55

 

อีกทั้งยังทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2563 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการปันส่วนหรือจำหน่ายหน้ากากอนามัย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ร้อยละ 68.7 และทราบว่า การโก่งราคาขายหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม มีความผิดทางอาญาโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิด โทรแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 ร้อยละ 55.9

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่าการประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย สามารถป้องกันการแพร่ระบาดโรคดังกล่าว ร้อยละ 42.9 และคิดว่าการประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการปันส่วนหรือจำหน่ายหน้ากากอนามัย ไม่สามารถป้องกันการจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ร้อยละ 43.8  อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ร้อยละ 36   และคิดว่าปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 จะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ร้อยละ 69

ศูนย์การค้าแพลทินัม ลดค่าเช่า 10-35% ช่วยเหลือผู้ค้ารับผลกระทบพิษโควิด-19

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ