ฝ่าพิษ โควิด-19 หุ้นไทยปิดบวกรับศุกร์ 13


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หุ้นไทยพลิกกลับแดนบวกหลัง สมคิด ส่งสัญญาณให้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูแลนักลงทุน เตรียมปรับเกณฑ์ short sell

ซึ่งดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายพลิกกลับมาปรับขึ้นมากกว่า 30 จุด หลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเตรียมชงการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นเสนอนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศปรับเกณฑ์การขายชอร์ตเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งเตรียมพิจารณามาตรการอื่น ๆ ตามมา

สมคิด สั่ง ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ หามาตรการรับมือหุ้นร่วงจาก โควิด-19

โดยดัชนีหุ้นไทย (13 มี.ค.) ปิดที่ 1,128.91 จุด เพิ่มขึ้น 14.00 หรือคิดเป็น +1.26% มูลค่าการซื้อขาย 119,194.08  ล้านบาท 

วิเคราะห์สถานการณ์ ไวรัสโควิด-19 พ่นพิษสะทือนทั้งโลก

สถานการณ์ตลอดทั้งวัน

สธ.พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 5 ราย

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 มี.ค.) เปิดทำการซื้อขายเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ดัชนี SET Index อยู่ที่ระดับ 1,003.39 จุด ร่วงไป -111.52    จุด (-10.00% )  โดยการลดลงของหุ้นไทยอย่างหนักในครั้งนี้ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี  ขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เข้าสู่ภาวะหมีเต็มตัว

ด่วน! ตลท.ใช้ “เซอร์กิตเบรกเกอร์” หลังหุ้นร่วงหนัก 10%

ทั้งนี้ หลังเปิดทำการซื้อขายไปเพียงไม่กี่นาที ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศใช้ เซอร์กิตเบรกเกอร์  (Circuit Breaker)  30 นาที หลังดัชนีหุ้นไทยลดลง 10.00% โดยจะกลับมาเปิดทำการซื้ออขายอีกครั้ง 10.29 น. นับเป็นครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ไทยและเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว 2 วันติดกัน

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 มี.ค.) ปิดการซื้อขายภาคเช้า  1,103.96 จุด  ขณะที่โควิด-19 ยังเป็นปัจจัยสำคัญหลังวันนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 5 คน โดยภาคเช้าก็กลับมายืนเหนือ 1,000 จุดได้อีกครั้ง ด้วยการ ปิดทำการซื้อขายภาคเช้า (12.30 น.)  ดัชนี SET อยู่ที่ 1,103.96 จุด ลดลง -10.95 จุด หรือคิดเป็น -0.98% มูลค่าการซื้อขาย 73,954.12 ล้านบาท

 

และหากย้อนไปดู ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (12 มี.ค.) ปิดที่ 21,200.62 จุด ดิ่งลง 2,352.60 จุด หรือ -9.99% ขณะที่ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,480.64 จุด ลดลง 260.74 จุด หรือ -9.51% ส่วนดัชนีแนสแดค ปิดที่ 7,201.80 จุด ลดลง 750.25 จุด หรือ -9.43%

มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตลาดทุนฝ่าวิกฤต COVID-19

ซึ่งมีช่วงหนี่งได้การประกาศใช้ระบบ circuit breaker (หยุดพักการซื้อขาย) อีกครั้ง เป็นเวลา 15 นาที นับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยครั้งแรก วันจันทร์ ที่ 9มี.ค. โดยดัชนีดาวโจนส์ และ เอสแอนด์พี 500 ต่างก็ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันแบล็คมันเดย์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2530

สำหรับการร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 13 มี.ค.

อิหร่านขอกู้ไอเอ็มเอฟครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปี สู้โควิด-19

ซึ่งมาตรการนี้ยิ่งทำให้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19และฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์  ยังได้ตำหนิสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่ดำเนินมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนตั้งแต่ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด

24 รัฐ ในอเมริกา "ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข"

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.48 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 31.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.57 ดอลลาร์ หรือ 7.20% ปิดที่ 33.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 52 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,590.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อัพเดต! ทองวันนี้ – 13 มี.ค. 63 ผันผวน 14 ครั้ง ปรับขึ้น 100 บาท

หมายเหตุ :  การเข้าสู่ "ภาวะตลาดหมี" หรือ Bear Market อย่างเต็มตัว ซึ่งหมายถึงการที่ราคาหุ้นลดลงอย่างน้อย 20 จากระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ หรือ 1 ปี และสิ้นสุดของภาวะตลาดกระทิง หรือ Bull Market ที่ยาวนานที่สุดเป็นสถิติใหม่ คือตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2009 นับเวลารวม 11 ปีเต็ม

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ