“อนุทิน” ลั่นไม่ได้ปิดกรุงเทพฯ แต่ปิด 'สถานบันเทิง- สนามม้า- สนามมวย'

วันที่  17 มี.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล  ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาลไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   แถลงว่า เป็นเวลา 2 เดือนกว่าที่ไทยประสบปัญหาโควิด-19 โดยผู้ป่วยเพิ่มขึ้นล่าสุด 30 ราย รวมสะสม 177 ราย โดยผู้เสียชีวิตยังเป็น 1 ราย  อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆที่ออกมาก็เพื่อควบคุมจำนวนผู้ป่วยให้ดำเนินการอย่างช้าที่สุด สิ่งสำคัญโรคโควิด-19 ป้องกันได้ด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ช้อนส่วนตัว หรือแยกสำรับอาหาร ไม่กินอาหารร่วมกัน และต้องล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ หรือหากป่วย มีไข้ หรือมีน้ำมูก จาม ก็ควรสวมหน้ากากอนามัย และพบแพทย์ทันที หากป่วยโควิด-19 จะไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย ทั้งนี้ ขอย้ำว่า อย่าไปกักตุนสินค้า เรายังไม่ถึงมาตรการขนาดนั้น

ครม. สั่งปิด สถานบันเทิง-สถานบริการ-สถานศึกษา 14 วัน พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ป้องกันโควิด-19

  “สนามมวยราชดำเนิน” ปิด 14 วัน หลังแฟนมวยติดโควิด-19

นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า  การที่เราประกาศว่ามีคนติดเชื้อเพิ่ม เพื่อให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังตัว และอยู่รอดปลอดภัยจากโรคโควิด-19  ทั้งนี้ ช่วงนี้ต้องขอย้ำเตือนว่า อย่าไปอยู่กันสถานที่ชุมชน มีกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันมาก อย่างสนามมวย ก็จะพบเห็นว่า จากสภาพอากาศ คนจำนวนมาก ย่อมเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดต่อของเชื้อได้ แต่ไม่ใช่ว่าติดในวงกว้าง แต่เป็นการติดต่อที่เรายังหาต้นตอการระบาดได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีคนติดเชื้อเพิ่ม 60-70 คนก็ล้วนมาจากสถานที่เดียวกัน 

“จริงๆแล้วตรงไหนก็ตามที่มีการชุมนุม มีการอยู่กันอย่างแออัด ใกล้ชิด มีเหงื่อเยอะ สารคัดหลั่ง ละอองฝอยเยอะก็ถือเป็นที่แพร่เชื้อของสารคัดหลั่งโควิด -19  โดยในช่วงนี้เราจะต้องทำมาตรการอะไรบ้าง ที่ผ่านมาก็มีการควบคุมในเรื่องผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ที่เป็นต่างชาติ โดยเฉพาะมาจากประเทศที่มีเขตโรคติดต่อ ก็จะมีทั้งใบประกันสุขภาพจำนวน 100,000 ยูเอสดอลลาร์ มีใบรับรองแพทย์ ยินยอมให้ใช้แอพพลิเคชั่นในการติดตามตัว และแสดงวัตถุประสงค์การมา ที่สำคัญต้องรับทราบว่า เขาจะต้องถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ส่วนที่เป็นนักเดินทางจากประเทศอื่นๆ ทางกระทรวงฯ พิจารณาแล้วว่าเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง แม้ไม่ประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายก็จะใช้มาตรการเช่นเดียวกัน” นายอนุทิน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า  ส่วนข้าราชการ พนักงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ งดการเดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นเหตุจำเป็นจริงๆ ต้องขออนุมัติผู้บังคับบัญชา เพื่อป้องกันความเสี่ยงติดโรคจากการเดินทาง และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สธ.ต้องการให้เกิดการยับยั้งการแพร่ระบาดในประเทศ เนื่องจากเชื้อไวรัสไม่สามารถเดินทางไปตามอากาศ ตามลมได้ แต่เชื้อไวรัสไปกับคน อยู่ในตัวคนติดเชื้อ ดังนั้น การติดเชื้อได้ คนนั้นต้องเดินทาง ซึ่งการจะยับยั้งการแพร่ระบาดจึงต้องขอจำกัดการเดินทางของคนในช่วงนี้เท่านั้น ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. จึงจำเป็นต้องขอให้ทำงานตามปกติ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ส่วนวันหยุดชดเชยจะมีให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

“ช่วงนี้ขอให้มีการปิดสถานบันเทิงในบริเวณกรุงเทพและปริมณฑล โดยกระทรวงสาธารณสุขจะใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ม.35(1) โดยมีเจ้าพนักงาน เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด อบจ. อบต. หรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ ส่วนแหล่งที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก เช่น สนามมวย สนามชนไก่ สนามม้า โดยทั่วประเทศต้องปิด จนกว่าจะมีคำสั่งต่อไป” นายอนุทิน กล่าว  และว่า สำหรับการปิดสถานที่ต่างๆ เราจะให้ทำบิ๊กคลีนนิ่งเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2563 เป็นต้นไป โดยกระทรวงสาธารณสุขจะไปตรวจ และดูแล หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะสามารถเปิดให้ดำเนินการต่อไปหรือไม่อีกครั้ง เมื่อถึงเวลาสมควร เราขอเน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก

นายอนุทิน กล่าวว่า  สำหรับสนามม้า สนามมวย ฯลฯ จะปิดทั่วประเทศ  ส่วนจะมีการปิดแหล่งอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอธิบดีกรมควบคุมโรค เนื่องจากมีอำนาจทางกฎหมาย ให้หน่วยงานปกครองดำเนินการได้ ซึ่งในแต่ละจังหวัดจะมีกรรมการโรคติดต่อจังหวัดดำเนินการได้ เช่น หากเพิ่งมาพบเจอว่า มีสถานที่แห่งหนึ่งมีความเสี่ยงก่อโรคได้ โดยอำนาจอธิบดีกรมควบคุมโรคสามารถสั่งปิดได้ทันที ซึ่งเรามีเจ้าพนักงานคอยติดตามแต่ละแห่ง นอกจากนี้  ในส่วนโรงเรียน สถานบันกวดวิชา มหาวิทยาลัย ได้มีการแจ้งไปยังกระทรวงศึกษาธิการฯ ทำการปิดการสอนเป็นเวลา 2 สัปดาห์เช่นกัน ส่วนรายละเอียดจะเป็นมาตรการของแต่ละกระทรวงฯ ส่วนกระทรวงสาธารณสุข จะใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆให้ดำเนินการตามความเหมาะสมและสถานการณ์

 อย่างไรก็ตาม สำหรับโควิด-19 หากไม่แสดงอาการก็ขอให้อยู่บ้าน โดยในแต่ละวันให้สังเกตอาการตนเอง หากป่วย ไข้ไม่หาย ให้พบแพทย์ ซึ่งที่ตนพูดก็ล้วนมาจากข้อมูลของทางแพทย์ทั้งนั้น ส่วนเรื่องยานั้น ขณะนี้องค์การเภสัชกรรม(อภ.) มียาที่จะนำมาใช้รักษา ส่วนผู้ป่วยที่อาการรุนแรง เรามียานำเข้าจากต่างประเทศ ล่าสุดก็มีความร่วมมือจากประเทศต่างๆมาช่วยเหลือด้วย  รวมถึงการจัดหาวัตถุดิบ เวชภัณฑ์ ตอนนี้ก็เริ่มคลายตัวแล้ว

“ยังมีเรื่องน่ายินดีสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และสังกัดอื่นๆ ที่ให้บริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยสมาคมประกันภัย ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัย Covid-19 เมืองไทยประกันชีวิต แก่บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 50,000 กรมธรรม์ ทุนประกันภัยรวม 26 ล้านบาท  และทางรัฐบาลยังเพิ่มค่าเวรให้บุคลากรด้วย” รองนายกฯ กล่าว และขอย้ำว่า อยากขอให้เข้าใจ เราไม่ได้ปิดกรุงเทพ แต่เป็นการปิดสถานบันเทิง

อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ที่เกิดขึ้น จากทั่วโลก ล่าสุด 17 มี.ค. 63

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.)  กล่าวอีกว่า  จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คือต้องไม่พบผู้ป่วยที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้อง อย่างการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก หากจะจัดต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนห้างสรรพสินค้า ตลาด พื้นที่ส่วนราชการ มีข้อกำหนดว่า หากจะเปิดต้องดำเนินการตามสุขอนามัยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ส่วนร้านอาหารก็จะมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว ซึ่งมอบอำนาจให้ท้องถิ่นดำเนินการ  แต่หากเราพบผู้ป่วย หรือผู้สงสัย ตัวพนักงานควบคุมโรคก็จะมีอำนาจสั่งปิดให้ดำเนินการปรับปรุง จนกว่าจะมีคำสั่งให้เปิดได้อีกครั้ง