"มัลลิกา"ท้า"อัจฉริยะ"สาบานปมเรียกค่าหัวคิวหน้ากากอนามัย
หลักมาตรฐานในการปฎิบัติกับสมาชิกพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอ เป็นประเด็นสำคัญที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ทำหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหาร ให้ตั้งกรรมการสอบสวนนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และให้นางมัลลิกาแสดงสปิริตทางการเมืองลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรอผลการสอบสวน
การยื่่นหนังสือของนายเทพไทครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมออกมากล่าวหาว่ามีขบวนการทุจริตหน้ากากอนามัยเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหญิง เป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนายเทพไทระบุว่า คนส่วนใหญ่ในสังคมเข้าใจว่า น่าจะหมายถึงนางมัลลิกา และสร้างความเสียหายแก่พรรคประชาธิปัตย์
นายเทพไทยังยกตัวอย่างการลาออกจากตำแหน่งของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต 3 คือนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับปลากระป๋องเน่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกข้อกล่าวหาความโปร่งใสในการจัดทำงบประมาณ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีจัดซื้อรถดับเพลิง
นายเทพไทระบุว่า หากการสอบสวนพบว่านางมัลลิกาไม่มีความผิด ก็สามารถแต่งตั้งเข้ามารับตำแหน่งได้ และนับเป็นความสง่างามและดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศ ชื่อเสียง อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์
"มัลลิกา"ฟ้องหมิ่นประมาท"อัจฉริยะ" พาดพิงกักตุนหน้ากาก
และวันนี้ นายอัจฉริยะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีกับนางมัลลิกาพร้อมพวก 5 คน ฐานแจ้งความเท็จ หลังนางมัลลิกาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะฐานหมิ่นประมาทและนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.
นายอัจฉริยระบุว่า ขณะที่เขาไลฟ์สดเฟซบุ๊กไม่ได้ชื่อใครและไม่ได้รับงานใครมา ไม่มีเจตนาแอบแฝง แต่ข้องใจเพราะเชื่อว่ามีกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์จากการกักตุนหน้ากากอนามัย จึงต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลการส่งออกและการจำหน่ายหน้ากากอนามัยภายในประเทศ เพราะได้รับข้อมูลมาว่ามีบริษัทผลิตหน้ากากอนามัย 242 แห่ง แต่มีเพียง 7 บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออก หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากบริษัทที่เหลืออีก 235 บริษัท หายไปไหน
และสำหรับเหตุการณ์นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ถอดหน้ากากอนามัย ไปนั่งข้าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้ยุติการประชุมในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา
วันนี้ นายโอภาส อาลมิสรี ผู้ช่วย ส.ส.ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สน.บางโพ เพราะกังวลหลังนายสิระโพสต์ว่าเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน แต่ในที่ประชุมนายสิระ พยายามมานั่งติดกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์และขอให้เลิกการประชุม จึงทำให้ไม่สบายใจ และเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายพยายามฆ่า หากพบว่านายสิระติดเชื้อโควิด-19 ในการตรวจครั้งที่ 2 จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าทันที
"อัจฉริยะ"เตรียมฟ้องกลับ"มัลลิกา"ฐานแจ้งความเท็จ