“เทพไท” จี้ “มัลลิกา” ลาออกที่ปรึกษารมต. ปมกักตุนหน้ากาก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ปมหน้ากากอนามัยมีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปมา ล่าสุดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ แจ้งความให้ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีกับนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ฐานแจ้งความเท็จ หลังนางมัลลิกาแจ้งความดำเนินคดีนายอัจฉริยะฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ร่อนหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้ตั้งกรรมการสอบนางมัลลิกา และให้นางมัลลิกาลาออกจากที่ปรึกษา

"มัลลิกา"ท้า"อัจฉริยะ"สาบานปมเรียกค่าหัวคิวหน้ากากอนามัย

หลักมาตรฐานในการปฎิบัติกับสมาชิกพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอ เป็นประเด็นสำคัญที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ทำหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหาร ให้ตั้งกรรมการสอบสวนนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และให้นางมัลลิกาแสดงสปิริตทางการเมืองลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรอผลการสอบสวน

การยื่่นหนังสือของนายเทพไทครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมออกมากล่าวหาว่ามีขบวนการทุจริตหน้ากากอนามัยเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหญิง เป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนายเทพไทระบุว่า คนส่วนใหญ่ในสังคมเข้าใจว่า น่าจะหมายถึงนางมัลลิกา และสร้างความเสียหายแก่พรรคประชาธิปัตย์

นายเทพไทยังยกตัวอย่างการลาออกจากตำแหน่งของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต 3 คือนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับปลากระป๋องเน่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกข้อกล่าวหาความโปร่งใสในการจัดทำงบประมาณ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีจัดซื้อรถดับเพลิง

นายเทพไทระบุว่า หากการสอบสวนพบว่านางมัลลิกาไม่มีความผิด ก็สามารถแต่งตั้งเข้ามารับตำแหน่งได้ และนับเป็นความสง่างามและดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศ ชื่อเสียง อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์

"มัลลิกา"ฟ้องหมิ่นประมาท"อัจฉริยะ" พาดพิงกักตุนหน้ากาก

และวันนี้ นายอัจฉริยะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีกับนางมัลลิกาพร้อมพวก 5 คน ฐานแจ้งความเท็จ หลังนางมัลลิกาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะฐานหมิ่นประมาทและนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.

นายอัจฉริยระบุว่า ขณะที่เขาไลฟ์สดเฟซบุ๊กไม่ได้ชื่อใครและไม่ได้รับงานใครมา ไม่มีเจตนาแอบแฝง แต่ข้องใจเพราะเชื่อว่ามีกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์จากการกักตุนหน้ากากอนามัย จึงต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลการส่งออกและการจำหน่ายหน้ากากอนามัยภายในประเทศ เพราะได้รับข้อมูลมาว่ามีบริษัทผลิตหน้ากากอนามัย 242 แห่ง แต่มีเพียง 7 บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออก หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากบริษัทที่เหลืออีก 235 บริษัท หายไปไหน

และสำหรับเหตุการณ์นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ถอดหน้ากากอนามัย ไปนั่งข้าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้ยุติการประชุมในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา

วันนี้ นายโอภาส อาลมิสรี ผู้ช่วย ส.ส.ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สน.บางโพ เพราะกังวลหลังนายสิระโพสต์ว่าเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน แต่ในที่ประชุมนายสิระ พยายามมานั่งติดกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์และขอให้เลิกการประชุม จึงทำให้ไม่สบายใจ และเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายพยายามฆ่า หากพบว่านายสิระติดเชื้อโควิด-19 ในการตรวจครั้งที่ 2 จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าทันที

"อัจฉริยะ"เตรียมฟ้องกลับ"มัลลิกา"ฐานแจ้งความเท็จ

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ