ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudhaพร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ที่ต้องกังวลว่า คนติดเชื้อมักเป็นคนทำงาน วัยหนุ่มสาว แต่ไม่รู้ตัว และหลายคนก็ไม่แสดงอาการประมาณ 80% เรียกได้ว่า ไม่มีทางรู้หรืออาจจะยากมากที่จะระบุว่าติดจากไหน และจะสามารถแพร่เชื้อได้กี่วัน ก่อนมีอาการไม่มีใครบอกตัวเลขได้ชัดเจนในแต่ละราย ซ้ำร้าย พอมีอาการกลับ อาการน้อยจนไม่รู้สึก กลายเป็นตัวแพร่เชื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มหนุ่มสาวแข็งแรงปัญหา ญาติมาเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล อาจจะพาโรคมาแพร่ให้ โดยวัดไข้ก็ไม่ขึ้น เดินกระฉับกระเฉง และเหล่านี้ คือคนหนุ่มสาว เป็นส่วนมาก ที่กิจกรรมชีวิตโลดแล่น มีชีวิตชีวา เป็นตัวแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ
อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 22มี.ค. 63
อินเดีย ประกาศ เคอร์ฟิว 14 ชั่วโมง เพื่อต่อสู้และจำกัดการแพร่ระบาดโควิด-19
“คนไม่รู้ตัวอาจไปแพร่เชื้อคนสูงอายุ มีโรคประจำตัว ซึ่งเมื่อรับเชื้อก็เสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิต ดังนั้น คนหนุ่มสาว ต้องหยุดการแพร่เชื้อ” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า ถ้าคนอย่างน้อยครึ่งประเทศติดเชื้อถ้าไม่ตายไปเสียก่อน ก็จะมีภูมิคุ้มกันและเริ่มทำให้ประเทศปลอดภัย จำได้หรือไม่วิธีการเช่นนี้ คือ วิธีการเดียวกันกับที่เราต้องฉีดวัคซีนให้หมาทั่วประเทศอย่างน้อย 60% เพื่อควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า นั่นคือ การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity)ใน covid 19 เมื่อติดเชื้อคน 80% อาการน้อยหายเอง และจะเป็นหนุ่มสาวที่ไม่มีโรคประจำตัวแต่กลายเป็นคนแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ แต่บางรายก็รุนแรง เจอจังๆ ตายได้ ส่วนอีก20% ที่เหลือมักจะเป็นคนสูงอายุ 65 ปีขึ้นไปมีโรคประจำตัว ถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล อัตราตายอาจสูงถึง 20-50% ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า 1. ถ้าปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติตามยถากรรมไม่มีการควบคุมและแน่นอนไม่มีทรัพยากรในการรักษาได้ทั่วถึง จะสงบได้โดยเร็วแต่เสียชีวิตมหาศาล ระบบสาธารณสุขย่อยยับ เจ้าหน้าที่เสียหายมหาศาล
2. ควบคุมเท่าที่จะทำได้ตามระดับ โดยหวังให้ประชาชนมีวินัย งดการชุมนุม รวมกลุ่ม สถานบริการสถานบันเทิงรวมทั้งควบคุมโรงงานมีการทำงานแออัด งดเทศกาลทุกชนิด ป้องกัน จำกัดการแพร่ในที่สาธารณะ หรือ ควบคุมอย่างเข้มงวดโรคจะไหลไปเอื่อยๆ จนประมาณ 7-9 ปีหรือเมื่อมีวัคซีนแต่หมายความว่าทุกคนจะต้องถือสันโดยตลอด หรือ ควบคุมได้ระดับหนึ่ง โรคจะปะทุขึ้นอย่างรุนแรงภายใน 2 ปี และสงบเพราะในแต่ละเดือนจะต้องยอมให้เกิดคนติดเชื้อ 30 ล้าน คน หารด้วย 24เดือน แต่ละเดือนจะมีคนติดเชื้อเป็นแสน และความเสียหายจะเห็นได้แบบเดียวกับข้อหนึ่งแม้จะน้อยกว่าบ้าง
3. มาตรการเข้มปิดบ้าน ปิดประเทศ 21 วัน พ้นระยะฟักตัว และระยะแพร่เชื้อ สำหรับคนที่มีอาการน้อยซึ่งจะหายเองทั้งหมดโดยไม่ต้องมีการรักษาใดๆ แต่ถ้าอาการมากก็รีบรับตัวเค้าไปรักษาที่โรงพยาบาล มาตรการนี้ทำสำเร็จในประเทศจีนแม้ว่าจะทำหลังจากที่มีการระบาดมหาศาลในประเทศแล้วก็ตามมาตรการนี้จะทำให้ประเทศสะอาดและกลับมาดำเนินชีวิตมีเทศกาลได้ “ใกล้เคียงแต่ไม่ถึงกับปกติ” ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยยังต้องมีระยะห่าง 2 เมตรทั้งการทำงานในสถานที่ทำงาน ในโรงงาน ในรถโดยสารสาธารณะ แต่ทำให้มีความเชื่อมั่นจากทั้งในและนานาประเทศและสามารถที่จะเลือกนักท่องเที่ยวจากพื้นที่ใดก็ได้ มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการที่ทำไม่ได้ทางเพราะภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้คำแนะนำและช่วยรัฐบาลอย่างเต็มที่ในขณะที่ดำเนินการอยู่ และต้องคำนึงถึงคนที่หาเช้ากินค่ำเป็นอันดับแรก
ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 188 ราย ยอดสะสม 599 ราย
“ที่สำคัญ คือ มาตรการนี้หลังจาก 21 วัน จะต้องกระบวนการตรวจคนที่ติดเชื้อไปแล้ว หรือคนที่ติดเชื้อใหม่ได้อย่างรวดเร็วและราคาถูกกว่าที่ปฏิบัติกันอยู่ ณ ขณะนี้และป้องกันไม่ให้มีระลอกที่สองที่สามเกิดขึ้นมาอีก” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
ผู้ว่าฯกทม. ออกประกาศฉบับที่ 3 สั่งปิดสถานที่ชั่วคราว
ภาพจากเฟซบุ๊กธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha