เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนไทยสั่งปิดพรมแดน แรงงานเมียนมาร์จำนวนมากหลั่งไหลเดินทางกลับประเทศ สร้างความวิตกกังวลถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ชาวเมียนมาร์ในหมู่บ้านต่างๆจริงจังกับมาตรการป้องกันเป็นอย่างมาก
โดยได้สร้างเพิงพักชั่วคราวให้กับแรงงานที่กลับมาจากไทยอยู่ห่างออกไปจากหมู่บ้านเพื่อกักตัวเองสังเกตอาการ ดังนั้นชาวเมียนมาร์บางคนจึงติดต่อมายังเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่ยังอยู่ในประเทศไทยว่าไม่ควรกลับไป เพราะถ้ากลับไปก็ยังไม่ได้อยู่กับครอบครัวอยู่ดี
หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงเมียนมาร์ เพราะความไม่พร้อมของระบบสาธารณสุข โดยคุณหมอคนหนึ่งในเมืองปะเต็นออกมาขอความช่วยเหลือผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า โรงพยาบาลของเขามีเตียงคนไข้ในวอร์ดผู้ป่วยแยกเดี่ยวเพียงแค่ 7 เตียงเท่านั้น และมีเครื่องช่วยหายใจเพียงหนึ่งเครื่อง ถ้าหากมีคนไข้มากกว่า 7 คนก็จะไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในเมียนมาร์ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 5 คนแล้วในวันนี้
ส่วนที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แม้จะมีคำสั่งปิดด่านพรมแดนไทย-ลาวไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นับจนถึงเมื่อวาน แรงงานลาวยังคงเดินทางมาที่ด่านสะพานมิตรภาพ 1-4 และด่านช่องเม็ก โดยทางการไทยได้ผ่อนปรนให้ข้ามแดนไปได้ทุกคน แต่เมื่อแรงงานลาวมาถึงด่าน ตม.ฝั่งลาว คณะกรรมการเฉพาะกิจป้องกันโควิดจะใช้รถทหารพาแรงงานทั้งหมดไป “ศูนย์กักกัน” ชั่วคราว ตามภูมิลำเนา โดยรัฐบาลท้องถิ่นจะใช้โรงเรียนอนุบาล ,ประถม และมัธยม เป็นศูนย์กักกัน 14 วันเพื่อดูอาการ [เพจผู้ติดเชื้อในลาว]ส่วนนับจนถึงเมื่อวานนี้ มียอดยืนยันผู้ป่วยโควิด 19 ในลาวแล้ว 6 คน โดยทั้งหมดรักษาตัวที่โรงพยาบาลในนครหลวงเวียงจันทน์