นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เปิดเผยกับพีพีทีวีว่า กฎหมายเขียนไว้อย่างครอบคลุมว่าการดำเนินคดีเอาผิดกับคนร้าย ที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช สามารถทำได้ เพียงแต่การรับโทษ จะมากหรือน้อย ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ตำรวจยังไม่ดำเนินคดี "จิตรลดา" รอแพทย์ประเมินอาการ
หัวใจสำคัญคือแพทย์ต้องเป็นผู้ช่วยวินิจฉัยว่าช่วงเวลาที่ก่อเหตุ คนร้ายมีสติสัมปัชชัญญะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งกฏหมายระบุว่า ถ้าผู้ใดกระทำความผิด ในขณะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่องหรือจิตฟั่นเฟือนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ สำหรับความผิดนั้น
แต่ถ้าผู้กระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง อย่างเช่นคดีของ น.ส.จิตรลดาเมื่อปี 2548 ที่มีการตามดูเด็กนักเรียนหญิง มีการเตรียมอาวุธมีดไปจากบ้าน ศาลจึงเห็นว่าเธอพอจะมีความรู้สึกนึกคิดอยู่บ้าง จึงลงโทษจำคุก 4 ปี ซึ่งกรณีแบบนี้ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
ย้อนรอย 15 ปี “จิตรลดา” บุกร.ร.ดัง แทงเด็ก 4 คน จำคุก 4 ปี
อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ยังระบุอีกว่า แม้ตามกฎหมายขณะนี้ ตำรวจน่าจะยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับจิตรลดาได้ เพราะ น.ส.จิตรลดาน่าจะยังไม่มีสติสัมปัชชัญญะที่จะให้การหรือรับทราบข้อกล่าวหาได้ แต่ตำรวจสามารถส่งตัวจิตรลดาไปอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์ได้ตามกฎหมาย โดยระหว่างนี้ก็ต้องดำเนินการสืบสวน สอบปากคำ ไปก่อน เมื่อไหร่ที่คนร้ายอาการดีขึ้นจึงค่อยแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนการรับผิดชอบของครอบครัว น.ส.จิตรลดา นั้น นายปรเมศวร์ ระบุว่า หาก น.ส.จิตรลดา มีผู้อนุบาลที่แต่งตั้งตามกฎหมาย ครอบครัวผู้เสียหาย ก็สามารถฟ้องร้องทางแพ่งกับผู้อนุบาลได้ แต่เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรม รวมถึงสังคมเอง ก็ควรยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เหมือนกับกรณีกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา
เผยพฤติกรรม"จิตรลดา"เข้ามาซื้อของทำร้ายเด็ก 5 ขวบ
ย้อนคดี“จิตรลดา”พยานเผยปี 48 เคยสะกดรอยตามเด็กก่อนแทงสาหัส
“จิตรลดา” มือแทงเด็กคอนแวนต์ ปี48 คลั่ง แทงเด็ก 5 ขวบดับอีก