“หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวก็หายไปทั้งหมดเลย ตามบริษัททัวร์ต่างๆตอนนี้ก็ต้องปิด ปกตินักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาเที่ยวไทยตลอดทั้งปี ช่วงโลว์ซีซั่นผมก็จะได้ประมาณ 3 งาน ช่วงไฮก็ได้ประมาณ 5- 7 งาน ตอนนี้แคนเซิลงานไปแล้วอย่างไม่มีกำหนด” ประพนธ์ ตั้งชัยสิน มัคคุเทศก์ บอกเล่าให้เราฟัง ผลกระทบที่เป็นวงล้อเมื่อไม่มีทัวร์ โรงแรมก็ไม่มีคนเข้าพัก ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมบางแห่งเริ่มทยอยปิดตัว หรือบางแห่งทุนยังหนา ยังสู้ไหว ก็ต้องปรับตัวให้ทั้งเจ้าของและพนักงานอยู่รอดไปได้
“เราสงสารพนักงานเหมือนกันว่าถ้าเราให้เขาออก เขาจะกินอะไร ถ้าวิกฤตจริงๆถึงเดือนเมษายน ก็ต้องขอร้องกันว่าคนละครึ่งทางได้ไหม without pay 15 วันได้ไหม นึกสภาพว่า 160 ห้องมีแขกอยู่ 9 ห้องแบบนี้ ผมตายเปิดก็ตายปิดก็ตาย ก็ต้องดูว่าทำยังให้พนักงานอยู่ได้และผมก็อยู่ได้ ตอนนี้ผู้ประกอบการทุกคนคิดว่าภายใน 4เดือน น่าจะฟื้นเรื่องโรค แต่ธุรกิจน่าจะไปถึงสิ้นปี มันคงไม่ฟื้นใน 4 เดือน” สมเกียรติ กิตติธรกุล เจ้าของโรงแรมพี พี ไอส์แลนด์ คาบาน่าฯ สะท้อนปัญหาให้เราฟัง
แม้ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนจะควบคุมได้แล้ว สวนทางกับการแพร่กระจายในไทยที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน และในโซนยุโรปการแพร่ระบาดของโรคยังควบคุมไม่ได้ ทำให้ไทยสูญเสียยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ภาครัฐและเอกชนต้องหารือร่วมกัน การนำเอาแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวแบบส่วนตัวมาใช้ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในการท่องเที่ยวได้บ้างหรือไม่ แม้การประเมินค่าความเสียหายของการท่องเที่ยวอาจจะยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน การแพร่ระบาดของโรคยังคงดำเนินต่อไปอย่างหาจุดจบไม่ได้ พายุลูกใหญ่ที่กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวกำลังเผชิญอาจจะกลื่นกินชีวิตของพวกเขาจนตายในที่สุด