ศบค.เปิดข้อมูลผู้เสียชีวิต “โควิด-19” เพิ่ม! ล่าสุดอายุน้อยลง ร่วมดื่มสุราเป็นประจำ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศบค.แถลงข้อมูลผู้เสียชีวิต 3 ราย พบอายุ 30 ปี และ 46 ปี ส่วนผู้สูงอายุ 82 ปีมีประวัติโรคประจำตัว ร่วมงานเลี้ยงหัวหิน-ผับแถวสุขุมวิท ส่วนการระบาดเหลือ 11 จ.ไม่พบผู้ป่วย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5  เม.ย. 2563  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ของโรคไวรัสโคโรน่า (ศบค.)   นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.   แถลงข่าวสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า   สำหรับประเทศไทยพบว่าผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่  102    ราย   รวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,169   ราย พบใน 66 จังหวัด    โดยหายดีและกลับบ้านแล้ว 674  ราย และ เสียชีวิตเพิ่มอีก  3  ราย รวมผู้เสียชีวิต  23  ราย   

อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 5 เม.ย. 63

กรมควบคุมโรคพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 102 ราย เสียชีวิตอีก 3 ราย

โดยผู้เสียชีวิต 3 ราย นั้น 

รายที่ 1  เป็นชายไทยอายุ  46 ปี อาชีพรับจ้าง มีประวัติกลับมาจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงไทยวันที่ 22 มี.ค. รักษาวันแรกเมื่อวันที่  25 มี.ค ที่ผ่านมา พบมีไข้ 38.9 องศา มีอาการไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก และเสียชีวิตวันที่ 3 เม.ย

รายที่ 2  เป็นชายอายุ 82 ปี สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์  มีประวัติโรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง มีประวัติร่วมงานเลี้ยงในหมู่บ้านอำเภอหัวหิน และร่วมงานเลี้ยงบาร์แถวสุขุมวิท เมื่อวันที่ 29 มี.ค. มีไข้  จากนั้นวันที่ 31 มี.ค.เข้ารักษาที่รพ.เอกชนในจ.ประจวบคีรีขันธ์ พบมีความดันโลหิตสูง เหนื่อยหอบ ชีพจร 100 ครั้งต่อนาที แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นปอดบวม ส่งต่อรักษารพ.เอกชนที่จ.เพชรบุรี โดยในวันที่ 1 เม.ย.ใส่เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

รายที่ 3 ชายไทยอายุ  30 ปี อาชีพก่อสร้าง ดื่มสุราประจำ  เดินทางมาจากสุรินทร์ และทำงานก่อสร้างที่อำเภอปราสาท จ.สุรินทร์ เริ่มป่วย ไอ อาเจียนเป็นเลือด เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ไอมากขึ้น หอบ และรักษาตัวที่รพ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แรกรับออกซิเจนเลือดต่ำ มีการเอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิตวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด ตั้งแต่ 3 ม.ค. - 4 เม.ย. 2563 พบว่า โดยผู้เสียชีวิต 20 ราย เพศชายสูงกว่าเพศหญิง  ปัจจัยเสี่ยงการเสียชีวิต กลุ่มอายุ 50-69 ปี 9  ราย  เชื่อมโยงกับการไปต่างประเทศ  มีอาชีพเสี่ยง ส่วนอายุ 70 ปี 8 ราย พบว่า 50% เชื่อมโยงกับสนามมวย และสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน ฯลฯ  ทั้งนี้ อายุ  80-89 ปี อัตราเสี่ยงเสียชีวิต 16.7%  รองลงมา 70-79 ปี อัตราป่วยเสียชีวิต 10.5% ดังนั้น อย่าใกล้ผู้สูงอายุ อาจเสี่ยงนำเชื้อไปผู้สูงอายุได้  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 102 ราย    แบ่งเป็น 3  กลุ่ม

กลุ่ม 1  ผู้สัมผัสเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย /สถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้จำนวน 48 ราย

 -สถานบันเทิง 2 ราย

-สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่มาจากสนามมวย  44 ราย

-พิธีกรรมทางศาสนา 2 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 42 ราย

-คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ  13 ราย

-คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ  1 ราย

-สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ   2  ราย

-ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 5 ราย

-อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานสถานที่แออัด ใกล้ชิดต่างชาติ 19 ราย

-บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย

กลุ่มที่ 3 กลุ่มพบเชื้อแต่รอบสอบสวนเพิ่ม   12  ราย

“การกระจายตัวของผู้ป่วยนั้น ณ วันนี้ตัวเลขต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ซึ่งกรุงเทพฯ ก็ยังสูง โดยตัวเลขผู้ป่วยยืนยันสะสม พบว่ากรุงเทพฯ ทะลุผู้ป่วยทะลุพันคนแล้ว และยังพบพื้นที่เดิมๆ ทั้งปริมณฑล จังหวัดภาคตะวันออก  สามจังหวัดชายแดนใต้ แต่ยังมี 11 จังหวัดไม่พบผู้ป่วย โดยไม่มีรายงานรับการรักษา ซึ่งประกอบด้วย กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี อ่างทอง  ซึ่งต้องขอขอบคุณทางผู้ว่าราชการฯ และประชาชน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพยายามตรึง แต่ตัวเลขจังหวัดที่ไม่พบก็เริ่มน้อยลง ตอนนี้เหลือ 11 จังหวัดแล้ว เราต้องพยายามกันมาก เพราะมีความเสี่ยงทุกจังหวัดแล้ว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

กาชาดชวนผู้ป่วยหายโควิด-19 บริจาคพลาสมา หวังใช้รักษาโรครายอื่นต่อไป

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ