วันที่ 13 เม.ย. 2563 เครือข่ายบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข 31 องค์กร เรียกร้องการปฏิรูปฯ ที่เป็นธรรม 31 องค์กร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2563 ขอบพระคุณรัฐบาลที่ดำเนินการบรรจุบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข และข้อเสนอเพื่อการปฏิรูประบบสาธารณสุข และสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขทุกกลุ่ม ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ครม.อนุมัติหลักการ บรรจุข้าราชการสธ. 45,242 ตำแหน่งสู้โควิด-19
แพทย์แผนไทยฯ ร้อง “อนุทิน” ช่วย!! หลังทำงานสู้โควิด-19 แต่ตกสำรวจบรรจุ ขรก.
โดยสาระสำคัญ คือ การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ดังกล่าวในประเทศไทย ทำให้เกิดวิกฤติการณ์ต่างๆในสังคมไทย และส่งผลกระทบต่อการทำงานของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขที่ทำงานด่านหน้า ทั้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(สถานีอนามัย) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานควบคุมป้องกันโรค ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือตามด่านชายแดน และบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานตามกรม กอง ต่างๆ รวมถึงการดำเนินงานของฝ่ายสนับสนุน(back office)ทุกสายงานในหน่วยงานสาธารณสุขทุกระดับ ซึ่งต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อการดูแลรักษาพยาบาล งานในห้องปฏิบัติการ งานทางระบาดวิทยา งานอนามัยชุมชน การคัดกรอง กักกัน งานส่งเสริมสุขภาพ การส่งต่อผู้ป่วย การเยียวยาและการฟื้นฟูสภาพ และการสื่อสารข้อมูลสถานการณ์โรคที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น
เครือข่ายบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขฯ ขอขอบพระคุณรัฐบาล คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างสูง ที่ดำเนินการบรรจุ จำนวน 24 สายงาน รวมทั้งสิ้น 38,105 อัตรา และบรรจุนักศึกษาผู้สำเร็จการศึกษาในปี 2563 จำนวน 5 สายงาน รวมทั้งสิ้น 7,579 อัตรา ส่งผลต่อขวัญกำลังใจบุคลากรสาธารณสุขที่รอคอยการบรรจุมานานนับ 10 ปี ทั้งนี้หลังกระบวนการบรรจุดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนไปแล้ว
ทางเครือข่ายฯ ขอเสนอประเด็นเพื่อการปฏิรูประบบสาธารณสุข และสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขทุกกลุ่ม ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาล กพ. กระทรวงสาธารณสุข และผู้เกี่ยวข้องปรับปรุงระเบียบ นิยาม หลักเกณฑ์ที่เหมาะสม เสมอภาคต่อบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทุกวิชาชีพ ทุกสายงานที่ปฏิบัติงานสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อCOVID-19 และโรคอื่นๆ ดังนี้
- ปรับปรุงระเบียบ นิยาม เกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขใหม่(ว.11/62) ให้ครอบคลุมทุกวิชาชีพที่ปฏิบัติงานร่วมกันในปัจจุบัน
- ปรับปรุงระเบียบ นิยาม หลักเกณฑ์ค่าตอบแทนใหม่ ทุกฉบับ(ค่าเวร ค่าตอบแทนฉบับที่10-11-12 ค่าวิชาชีพ ค่าเสี่ยงภัย ค่าพตส. เงินประจำตำแหน่ง ฯลฯ) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และภาระงานในปัจจุบัน
2.ขอให้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสร้างขวัญกำลังใจสำหรับข้าราชการที่ปฏิบัติงานโควิด-19 ดังนี้
- เลื่อนไหลสู่ตำแหน่งอาวุโส หรือชำนาญการพิเศษ ด้วยวิธีพิเศษ เมื่อมีอายุ 53 ปี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจก่อนเกษียณในการเลื่อนระดับให้บุคลากรสาธารณสุขทุกวิชาชีพ ทุกสายงาน
- คืนอายุราชการเพื่อสร้างขวัญกำลังใจอดีตพนักงานของรัฐปี 2543-2547 ที่อายุราชการหายไป 3-5 ปี จากการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การบรรจุราชการของนักเรียนทุนในสมัยนั้นอย่างไม่เป็นธรรม
3.พิจารณาการใช้ตำแหน่งว่างอัตรากำลังที่มีอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข หรือกำหนดอัตราตั้งใหม่เพิ่มเติม(ตามแต่กรณี) แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 อย่างเสมอภาคเป็นธรรม ดังนี้
- การบรรจุพนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน เป็นข้าราชการ ให้ครอบคลุมทุกวิชาชีพในกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ เจ้าพนักงานสาธารณสุข(อายุรเวช) แพทย์แผนไทย เจ้าพนักงานเวชสถิติ นักวิชาการสาธารณสุข(เวชสถิติ) นักวิชาการสาธารณสุข(ทันตสาธารณสุข) เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน นักปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงฝ่ายสนับสนุน(back office) ทุกตำแหน่ง
- จัดสรรตำแหน่งว่างโควตาพิเศษในการปรับข้าราชการพลเรือนชายแดนใต้ทุกกระทรวงที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์Covid-19สายงานทั่วไป ระดับชำนาญงาน เป็นสายงานวิชาการ ระดับชำนาญการตำแหน่งตามหลักเกณฑ์ หนังสือ กพ. ว. 16/58 จังหวัดชายแดนภาคใต้
- ปรับตำแหน่ง ลูกจ้างรายคาบ ลูกจ้างเหมา ในทุกสายงาน ทุกวิชาชีพ รวมถึงฝ่ายสนับสนุน(back office) ปรับเป็นลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ พนักงานกระทรวง ทดแทนตำแหน่งที่ได้มีการปรับเป็นข้าราชการไปแล้ว
เจ้าพนง.เวชสถิติ 3 พันคนสู้โควิด-19 ร้อง “อนุทิน” ขอตำแหน่ง ขรก.