เรื่องนี้มีความเห็นจาก รศ.ดร. ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระบุว่า การออกมาแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่เป็นทางการอย่างมาก เพื่อต้องการให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะมีมาตรการ และเงินทุนเพียงพอในการเยียวยา และใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19
20 มหาเศรษฐีไทย เตรียมรับจดหมายเปิดผนึก “บิ๊กตู่”
แต่การใช้วิธีการลักษณะนี้มองว่าเป็นดาบสองคมที่จะถูกตั้งคำถามจากภาคประชาชนว่า จะมีการเอื้อประโยชน์ให้เชิงนโยบายต่อกันในอนาคตหรือไม่ และยังทำให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่สนับสุน พล.อ.ประยุทธ์ มองว่า “รัฐบาลถังแตก” ไม่มีเงิน
อาจารย์ยุทธพร ยังระบุอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรใช้วิธีการเขียนจดหมายเปิดผนึก แต่ควรเปิดให้ภาคเอกชน - มหาเศรษฐี - และทุกภาคส่วน ร่วมกันระดมสมอง หรือส่งเสริมแหล่งทุนตามความถนัด ผ่านในรูปแบบคณะกรรมการต่างๆ มากกว่า
ขณะเดียวกันก็มีมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างเช่น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลไม่ใช่เป็นการไปขอเงิน แต่เป็นการขอความร่วมมือเพื่อแสวงหาความคิดเห็น และนำมาเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาโควิด ซึ่งทุกคนทราบดีว่าเป็นสถานการณ์วิกฤตของประเทศ ดังนั้นการแสวงหาความร่วมมือมากเท่าไหร่ ยิ่งจะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาครั้งนี้ ซึ่งตนคิดว่านายกฯ มีเจตนาดีในการดำเนินการเรื่องดี และเกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากกว่าจะไปพบนักธุรกิจเพื่อขอเงิน
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะจะช่วยให้ได้มุมมองใหม่ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งนี้แนะนำว่ารัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ในการจัดระเบียบวินัยในสังคม โดยเฉพาะมารยาทเรื่องการต่อแถวซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของสังคม หากรัฐบาลสามารถใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเข้ามาจัดการในเรื่องนี้ได้จะส่งผลดีต่อวินัยของคนในชาติในระยะยาว
เปิดชื่อ 20 เศรษฐีไทย “บิ๊กตู่” เตรียมส่งจม.ขอความร่วมมือ เว้น“ทักษิณ” อันดับ 16
ขณะที่ นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ภัทร ให้ความเห็นที่แตกต่างออกไป โดยระบุว่า สมัยตอนสึนามิผมลงไปช่วยเครือข่ายฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน ปรากฎว่าหาเงินยากเย็น ไปหาเอกชนเจ้าไหนก็ได้รับคำตอบว่าโดนเกณฑ์ไปเข้าแถวมอบเงินให้นายกฯ (ทักษิณ สมัยนั้น) หมดงบแล้ว มาคราวนี้ทำท่าจะเรี่ยไรเอามากองที่ทำเนียบอีกแล้ว พร้อมระบุทิ้งท้ายว่า ปล่อยท่านมหาเศรษฐีต่างคนต่างทำไปจะได้ประโยชน์มากกว่าเยอะ
สำหรับกลุ่มมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยนั้น ตามที่นิตยสาร "ฟอร์บส ไทยแลนด์" จัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2563 โดยมหาเศรษฐี 20 อันดับแรก เช่น
-ตระกูลเจียรวนนท์
-เฉลิม อยู่วิทยา
-เจริญ สิริวัฒนภักดี
-ตระกูลจิราธิวัฒน์
-สารัชถ์ รัตนาวะดี
-ซึ่งในจำนวนนี้มี นายทักษิณ ชินวัตร อยู่ในอันดับที่ 16 ด้วย
แต่อย่างไรก็ตามมีรายงานจากแหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า กลุ่มมหาเศรษฐี 20 คนที่นายกฯ จะส่งจดหมายเปิดผนึกไปถึงนั้น ไม่ใช่เป็นการเรียงตามลำดับของนิตยาสารฟอร์บส และไม่นับรวมนายทักษิณ ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศด้วย