ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ภายใต้ มาตรการล็อกดาวน์ รับมือการระบาดของ โควิด-19 พบเห็นปรากฏการณ์คลื่นทะเลกลายเป็นแสงนีออนสีฟ้า ส่องสว่างในแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐ
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 3 พ.ค. 63
ปรากฏการณ์ดังกล่าวมักเรียกกันว่า “ประกายทะเล (Sea Sparkle)” เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษามาเป็นเวลา 120 ปี โดยสัมพันธ์กับปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ (Red Tide) หรือปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่ง (Algae Bloom) ซึ่งเกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellates) สาหร่ายเซลล์เดียวชนิดหนึ่ง
ไมเคิล แลตซ์ (Michael Latz) นักชีววิทยาทางทะเลสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปป์ส (Scripps Institution of Oceanography) ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานดิเอโก อธิบายว่า สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวขนาดเล็กเหล่านี้ มักลอยอยู่ใกล้ชายฝั่งหรือบนพื้นผิวของมหาสมุทร และพวกมันสามารถเปล่งแสงหรือเรืองแสงได้ เมื่อพวกมันถูกล่าโดยนักล่า แสงจะทำให้ผู้ล่าตกใจ เป็นการเรืองแสงทางชีวภาพ (Bioluminescence)
ชาวจีนกว่า 23 ล้านคน เดินทางเที่ยววันแรงงานหลังหยุดยาว 5 วัน
บางครั้งสิ่งมีชีวิตนี้ทำให้เกิด ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ ทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีแดงเข้ม สีน้ำตาล หรือสีส้ม ในเวลากลางวัน ส่วนในตอนกลางคืน พวกมันจะกลายเรืองแสงสวยงามเมื่อถูกกระทบด้วยคลื่นจากเรือ จากคนว่ายน้ำ หรือสัตว์น้ำต่าง ๆ
นี่เองที่ทำให้ปรากฏภาพ “โลมาเรืองแสง” ที่มีผู้บันทึกภาพไว้ได้ เกิดจากไดโนแฟลกเจลเลตถูกคลื่นจากการว่ายน้ำของโลมากระทบ จึงเรืองแสงไปถูกร่างของโลมา จนเห็นเป็นโลมาเรืองแสงสวยงาม
ขี้ปลาวาฬเป็นปรากฏการณ์ที่ยากจะคาดการณ์ และไม่ใช่ทุกครั้งที่มันจะเกิดการเรืองแสง นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่า ปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้ไดโนแฟลกเจลเลตเหล่านี้เรืองแสง
ประกายทะเลนั้นสร้างความสวยงามในเวลากลางคืน กระตุ้นให้ผู้ที่ชื่นชอบทะเลหรือมหาสมุทรพากันมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่งแม้บางพื้นที่จะอยู่ภายใต้ มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อสกัด โควิด-19 ก็ตาม
“ฮอกไกโด” โควิด-19 ระบาดระลอก 2 หลังปลด มาตรการล็อกดาวน์
เรียบเรียงจาก Scripps