แม้จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่มีผู้ติดเชื้อแล้ว 35 คน และอยู่ในข่ายเฝ้าระวังถึงกว่า 1,600 คน สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เกาหลีใต้ยังคงชุลมุนกับการตั้งรับวิกฤตไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2012 หรือไวรัสเมอร์ส
"เมอร์ส" เป็นไวรัสตระกลูเดียวกับโรคซาร์ส พบเมื่อปี 2555 ในชายชาวซาอุดิอาระเบียตามข้อมูลที่มีการบันทึกไว้ในวงการสาธารณสุขคาดว่าชายคนนี้รับเชื้อต่อมาจากอูฐ ซึ่งมีค้างคาวเป็นพาหะนำโรคต้นทาง
โดยผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีอาการหายใจลำบาก ไข้ขึ้นสูง หอบ และปอดอักเสบ ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงกว่า 40% รุนแรงกว่าไวรัสซาร์ที่อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 9.6 เท่านั้น แม้ไทยจะยังไม่พบผู้ป่วยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยง
ข้อมูลทางการแพทย์ ระบุว่า ไวรัสเมอร์สแพร่กระจายสู่คนผ่านสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก อันตรายที่สุดของไว้รัสชนิดนี้คือไม่มียารักษา ล่าสุดพบว่าภูมิภาคเอเชียกำลังเป็นพื้นที่แพร่ระบาด หนักที่สุดอยู่ในพื้นที่แถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบียที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ความเสี่ยงที่สุดสำหรับคนไทยอยู่ในช่วงเดือน ส.ค. ที่คาดว่าจะมีชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียอย่างน้อย 10,000 คน จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนโรคไข้กาฬหลังแอ่นหรือไข้วัดใหญ่เป็นวิธีการป้องกัน