ผู้เสียหายควายหายรายที่ 3 ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไว้เมื่อปี 2562 คือนางสำราญ เรืองรัมย์ เป็นชาวบ้านบ้านไทยพัฒนา ระบุว่าควายตนเองถูกลักขโมยไป 3 ตัว เชื่อมั่นว่านายบุญเลี้ยง มงคลกูล และนางสมมารถ คามวาสี สองสามีภรรยาอาชีพซื้อขายวัวควาย เป็นคนลักขโมยควายของตนเองไป และไม่เชื่อว่าจะเป็นแพะตามที่เป็นข่าว
สามีภรรยาขอความเป็นธรรมถูกกล่าวหาขโมยควาย ติดคุกฟรี 8 เดือน
นางสำราญ เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.เวลาประมาณ 23.00 น. มีคนร้ายมาตัดรั้วลวดหนามที่ทำเป็นคอกควายอยู่บริเวณข้างบ้าน แล้วขโมยควาย 3 ตัวไป เป็นเพศผู้จำนวน 2 ตัว และเพศเมีย 1 ตัว ขณะนั้นเห็นคนเดินจากคอกเดินลัดเลาะไปตามทุ่งนา แต่ไม่กล้าวิ่งตามไป เพราะอยู่บ้านคนเดียวสามีไปธุระต่างจังหวัด
จากนั้นไปยืมโทรศัพท์เพื่อนบ้านโทรแจ้งตำรวจและโทรหานายบุญเลี้ยง มงคลกูล ซึ่งตอนนั้นนายบุญเลี้ยง กดรับสาย แต่ไม่มีคนพูด แต่ตนเองได้ยินเสียงเหมือนกับการไล่ต้อนควายขึ้นรถ แต่เสียงไม่ชัดมาก
ข้อสงสัยที่นางสำราญ เชื่อว่า เป็นนายบุญเลี้ยงมาขโมยควายนั้น เพราะเมื่อช่วงปี 61 นายบุญเลี้ยง เคยมาซื้อขายวัวกับตนเองที่บ้าน หลังจากนั้นก็มาตีสนิท และเคยโทรมาหาหลายครั้งเพื่อพูดคุยสอบถามเรื่องวัวควายกันเป็นประจำ
เช้าวันที่ 3 มี.ค. นางสำราญ ได้โทรไปถามนายไพรวัลย์ กลุ่มพ่อค้าควาย ให้ช่วยแจ้งเบาะแสและตามหาควายของตนเอง ที่หายไป
ขณะนั้นนายไพรวัลย์ พ่อค้าควาย อยู่ที่ตลาดนัดควาย อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นตลาดเดียวกันกับที่ไปเจอควายของนายสุทธิโชค ที่หายไปก่อนหน้านี้ นายไพรวัลย์แจ้งว่า พบควาย 3 ตัว มีลักษณะตรงกับควายของนางสำราญ อยู่บนรถบรรทุกควาย เป็นกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ซึ่งทะเบียนรถ ตรงกับรถของนายบุญเลี้ยงและภรรยา ยิ่งทำให้ตัวเองมั่นใจว่าเป็นนายบุญเลี้ยง อย่างแน่นอน แต่ควายทั้ง 3 ตัวก็ถูกขายต่อไปแล้ว จึงไม่ได้ควายคืน
นางสำราญ บอกว่าตนเองมาทราบภายหลังว่านายบุญเลี้ยง และภรรยา ถูกแจ้งความในอีก 2 ท้องที่ คดีที่ สภ.ชำนิ ศาลตัดสินยกฟ้อง และหลังออกจากเรือนจำ นายบุญเลี้ยง และภรรยา ได้ไปหาตำรวจบอกว่าขอเคลียร์จ่ายเงินให้ 100,000 เพื่อจบคดี แต่ก็เห็นเงียบหายไป
ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่าคดีนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ และพิจารณาสั่งฟ้องภายในสัปดาห์หน้านี้ และเชื่อว่าพยานหลักฐานเพียงพอดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหาได้
ย้อนกลับมาที่คดี นายบุญเลี้ยง มงคลกูล และนางสมมารถ คามวาสี สองสามีภรรยาที่ถูกแจ้งความในพื้นที่สภ.ชำนิ และศาลยกฟ้อง ทั้งคู่ถูกปล่อยตัวออกมา
ความคืบหน้าล่าสุด นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี กล่าวถึงการอุทธรณ์คดีที่ สภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นายบุญเลี้ยง มงคลกูล และนางสมมารถ คามวาสี ว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับทุกฝ่าย และคำตัดสินศาลชัดเจน ว่าเป็นการยกฟ้องเพราะไม่มีพยานหลักฐานชี้ชัดว่า 2 สามี ภรรยา กระทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่กระบวนการหลังจากนี้คือการเยียวยาผู้ที่ได้รับโทษทางอาญา ตามกระบวนการ ซึ่งส่วนตัวจะไม่โทษว่าใครผิดหรือใครบกพร่องตรงไหน
นายปรเมศวร์ ระบุว่า ประชาชนยังสับสนว่า กระบวนการยุติธรรมสุดท้ายคือศาล และมักจะบอกว่าไม่ให้การในชั้นสอบสวน ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะความยุติธรรมเริ่มขึ้นที่ในชั้นสอบสวน โดยศาลจะเป็นผู้ตัดสิน และก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับสองสามีภรรยาและอัยการที่รับผิดชอบสำนวน พบว่าพนักงานสอบสวน สภ.ชำนิ ใช้ในการกล่าวหาคือพยานแวดล้อม 6 ปาก ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ประกอบกับประวัติที่ 2 สามีภรรยา ถูกดำเนินคดีลักษณะเดียวกันในพื้นที่อื่นทำให้เชื่อว่า นายบุญเลี้ยง และนางสมมารถ เป็นผู้ลักควาย
แห่ดูควายเผือกสายพันธุ์ไทยลูกผสม
