หลังประเทศอิตาลีประกาศคลายล็อก จากการแพร่ระบาดโควิด-19 เมืองเวนิส เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้จะยังไม่มีนักท่องเที่ยวแต่เริ่มมีเรือสัญจรไปมา ร้านค้าเริ่มทำความสะอาดเพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์ เมืองเวนิสกลับมาสวยงามด้วยน้ำที่ใสสะอาด มีสัตว์ทะเลหลากหลายชนิดว่ายขึ้นมาอวดโฉม สิ่งเหล่านี้เริ่มทำให้คนในท้องถิ่นหันกลับมาทบทวนการท่องเที่ยวของเมืองอีกครั้งควบคู่กับการรักษาสภาพแวดล้อมที่สวยงามเหล่านี้ไว้
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 20 พ.ค. 63
อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 20 พ.ค. 63
ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่า “พวกเขาเปิดร้านเพื่อใคร” ในทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวมาเมืองเวนิสมากถึง 30 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลกสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 น่านฟ้าปิดทำการบิน เป็นที่มาของคำถามดังกล่าวว่า เพราะเมืองเวนิสไม่ได้รับความนิยมมากนักในหมู่นักท่องเที่ยวในประเทศ ตามที่ Matteo Secchi หัวหน้ากลุ่มนักท่องเที่ยว Venessia กล่าว
ภาพจากดาวเทียมเทียบชัด “ภาพคลองเวนิสอิตาลี” ก่อนหลัง โควิด-19
"นักท่องเที่ยวจะไม่กลับมาจริงๆ จนกว่าจะมีการเปิดชายแดน และอนุญาตให้เดินทางระหว่างประเทศได้" Secchi ยืนยัน
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการกลับมาทำธุรกิจแบบเดิม
Jane da Mosto ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มไม่หวังผลกำไร We Are Here Venice บอกว่า โควิด-19 ทำให้เขาต่อสู้เรื่องการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนสำหรับเมือง อย่างการทำแคมเปญ ไม่ล่องเรือขนาดใหญ่บริเวณท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) อันโด่งดัง เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
“โควิด-19 เป็นจุดเปลี่ยนของเมือง ทำให้มองเห็น New Normal เมืองเวนิสที่จะเกิดขึ้นหลังการระบาดใหญ่” Jane da Mosto กล่าว
เธอบอกว่า New Normal เวนิสที่ฉันใฝ่ฝันหลังจากนี้ จะเป็นเหมือนตอนนี้มีผู้อยู่อาศัยที่เป็นคนพื้นเมือง จริงๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะปัญหาของเมืองเวนิสไม่ใช่การขาดนักท่องเที่ยว แต่เป็นการขาดผู้อยู่อาศัยถาวรและเมื่อมีผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เมืองก็จะสะท้อนวัฒนธรรมเวนิส และวิถีชีวิตที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น ในอนาคตนักท่องเที่ยวจะสามารถเพลิดเพลินกับเวนิสได้มากขึ้นด้วย
พบแมงกะพรุนในคลองเวนิสที่ใสสะอาด
ในหลาย ๆ ด้านทำให้เมืองเวนิสกลายเป็นเหยื่อจากนักท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งมาจากการแพ็คเกจทัวร์จากเรือสำราญหรือตั๋วเครื่องบินที่ถูกลง ทำให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทำให้ชาวพื้นเมืองหนีออกนอกเมือง ซึ่งจำนวนประชากรพื้นเมืองลดลงจาก 175,000 คน หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เหลือเพียง 52,000 คนในปัจจุบัน
“ไวรัสโควิด-19 แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวทำลายประชากรพื้นเมือง อย่างไร” Secchi ผู้ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมการบริการด้วย กล่าว “เมื่อเมืองถูกล็อก มันก็เป็นแค่ชาวเวเนเชี่ยนที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน”
คลองเวนิสน้ำใส-ธรรมชาติฟื้น หลังปิดเมืองสู้โควิด-19
เมื่อฤดูร้อนปีก่อนมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้รัฐบาลกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางระบบนิเวศ ทำให้เกิดมาตรการห้ามนำเรือเข้ามาในท่าเรือ ตรอนเคตโต้ (Tronchetto) ซึ่งผ่านจัตุรัสเซนต์มาร์ค นับเป็นไฮไลต์การท่องเที่ยว แต่แผนดังกล่าวถูกยกเลิกไป ธุรกิจการเดินเรือสำราญมีผู้ประกอบการและคนที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจนี้หลายพันคน
Secchi จึงมองว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะนำนโยบายกลับมา และทบทวนการท่องเที่ยวใหม่ รวมถึงพยายามสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนสำหรับเมืองที่เปราะบางแห่งนี้
7 New Normal ที่อาจได้เห็นในสังคมไทยในวันที่ โควิด-19 หายไป
Melissa Conn ผู้อำนวยการสำนักงาน Save Venice เวนิสกลุ่มมรดกทางวัฒนธรรมอเมริกัน ที่ทำงานเพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม อันกว้างใหญ่ของเมือง ผ่านการให้การอนุรักษ์ มองเรื่องนี้ว่า การระบาดใหญ่เป็นจุดเปลี่ยนและ “เรากำลังใช้เวลานี้ในทิศทางบวก”
รัฐบาลอิตาลีมีโครงการเร่งด่วนเกี่ยวกับการจัดการเมืองเวนิสประมาณ 30-40 โครงการ ตั้งแต่เกิดอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว
“ สิ่งที่จะตามมาคือการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ไม่ใช่การท่องเที่ยวที่มีปริมาณคนเยอะๆ อีกต่อไป” Conn กล่าว ซึ่งมันอาจทำให้ร้านค้าบางร้านต้องปิดตัว และเหลือเพียงร้านที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ Made in Venice เท่านั้น เพื่อส่งเสริมสินค้าท้องถิ่น เน้นคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นและผู้เยี่ยมชม
เมื่อหลายประเทศล็อกดาวน์ ธรรมชาติจึงฟื้นตัวในช่วงโควิด-19
เรียบเรียงจาก : CNN
