เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (20 พ.ค. 2563) ศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งว่ามีผู้อ้างตัวเป็นตำรวจ เข้าไปจับกุมชาวประมงพื้นบ้าน และเรียกเงินเป็นการแลกเปลี่ยนกับที่ไม่ถูกดำเนินคดี แต่ได้ถูกชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนบ้านสำโรง หมู่ 4 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์กว่า 200 คน ได้ล้อมรถยนต์คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไว้ได้
ญาติแฉ ! น้องชาย ถูก “แก๊งตำรวจยัดยา” รีดเงิน-ถุงดำคลุมหัวไม้เบสบอลทุบ
หลังรับแจ้งเหตุ ว่าที่ร้อยโทสมชาย เรืองจันทร์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไประงับเหตุ เมื่อไปถึง พบว่าบนถนนภายในชุมชนมีชาวบ้านกว่า 200 คนต่างรุมล้อม รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน กจ 792 สุราษฎร์ธานี โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้การเจรจาและได้พยายามกันประชาชนให้ออกจากตัวรถ แต่ก็ไม่เป็นผล
โดยชาวบ้านแจ้งว่า บุคคลที่อยู่ในรถ อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาจับกุม นายอรุชา บินมูซา อายุ 46 ปี ชาวประมง ที่ลงไปตักลูกหอยแครง บริเวณปากแม่น้ำตาปี แล้วถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นที่ตำรวจ ใช้อาวุธปืนจี้บังคับ แล้วยึดเอาลูกหอยแครง จำนวน 23 กระสอบน้ำหนัก 700 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 5 แสนบาทโดยอ้างว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อ นายอรุชา แจ้งว่าได้รับการอนุญาตให้ จับลูกหอยแครงได้โดยวิธีธรรมชาติ ผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจกลับไม่ยอม และได้เรียกเงินจำนวน 5 ล้านบาท เป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ไม่ต้องดำเนินคดี
นายอรุชา ระบุว่า ถูกตำรวจชุดดังกล่าวจับกุม แต่ได้มีอดีตกำนันคนหนึ่งเข้ามาช่วยเจรจาจนไม่มีการจับกุม แต่กลับเข้ามาก่อเหตุซ้ำ ตั้งแต่เวลา 15.10 น. และชาวบ้านได้ล้อมไว้ นานกว่า 4 ชม. ก่อนที่อดีตกำนันคนดังกล่าวจะเข้ามาเจรจา และชาวบ้านยอมแยกย้าย และเรียกร้องให้ทำการย้ายบุคคลดังกล่าวหากเป็นตำรวจ ให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่เจรจากับชาวบ้านเพื่อนำตัวไป สภ.กาญจนดิษฐ์ นานกว่า 2 ชั่วโมง จนสุดท้ายชาวบ้านยอมให้ขับรถออกไปโดยให้เปิดไฟในรถให้เห็นหน้าทั้ง 3 คน ซึ่งระหว่างรถกำลังแล่นออกไป ชาวบ้านซึ่งกำลังโมได้โฮ่ร้องขับไล่ทุบตีรถจนกระจกหลังแตกร้าว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น สำหรับบุคคลทั้ง 3 คน ที่ถูก ชาวบ้านล้อมจับนั้น เป็นตำรวจจริง สังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8
ตร.เร่งล่า ชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตร. เรียกรับเงินช่วยคดียาบ้า