อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 22 พ.ค. 63
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 22 พ.ค. 63
โดยปีนี้การประชุมต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งผู้แทนทั้งหมดจะต้องสวมหน้ากากอนามัย มีเพียงผู้แทนระดับสูงจำนวนประมาณ 20 กว่าคนเท่านั้น ที่นั่งอยู่สองแถวหน้าสุดจะไม่ใส่หน้ากาก ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรี หลี เค่อเฉียง
ในระหว่างเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรีหลี่ ได้ประกาศว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นการแพร่กระจายที่รวดเร็วที่สุด รุนแรงที่สุด และเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ท้าทายที่สุดที่จีนเคยประสบมานับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ภายใต้ความเป็นผู้นำอันเข้มแข็งของคณะกรรมาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นหลักให้ประเทศ รวมถึงการทำงานหนักและการเสียสละของประเทศ จีนจึงประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในรับรับมือกับโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ยังคงเกิดเสียวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ตกต่ำลงที่สุด ขณะที่นักการเมืองจากฝรั่งเศส ออสเตรเลียและอังกฤษยังคงมีคำถามเกี่ยวกับการรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาลจีน
การระบาดครั้งใหม่ของโควิด-19 ในจีนแสดงสัญญาณว่าไวรัสกำลังเปลี่ยนไป
ขณะเดียวกันเป็นครั้งแรกที่จีนไม่ประกาศตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปี โดยนายกรัฐมนตรีหลี่เปิดเผยว่า จีนจะไม่ตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ เพราะว่าประเทศเผชิญกับปัจจัยบางอย่างที่ยากลำบากเกินกว่าที่คาดการณ์ได้ เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจโลกและบรรยากาศการค้าขาย
ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 โดยในช่วงสามเดือนแรก ประเทศหยุดชะงักไปหมด ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนปรับตัวลดลงถึง 6.8 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เลวร้ายสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 1992
จีนดันกฎหมายมั่นคง สยบม็อบฮ่องกง
ขณะที่ประชุมเตรียมจะผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกง กรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวฮ่องกง ซึ่งนับตั้งแต่ปีที่แล้วก็เกิดความไม่สงบมาโดยตลอด โดยกฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะประกอบไปด้วยการสั่งห้ามไม่ให้ปลุกระดมฝูงชนก่อความไม่สงบ การสนับสนุนการแยกดินแดน และการโค่นล้มรัฐบาลจีน ซึ่งจะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อบายพาสการออกกฎหมายของฮ่องกงได้เลย โดยนายหลี่กล่าวว่า รัฐบาลกลาวจะใช้นโยบายหนึ่งประเทศสองระบบ และหลักการคนฮ่องกงปกครองฮ่องกงอย่างเที่ยงตรง
นอกจากนี้ จีนจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 6.6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ เป็น 1.27 ล้านล้านหยวน ส่วนงบประมาณด้านการบริการสาธารณะทั่วไปลดลง 13.3 เปอร์เซ็นต์ งบประมาณด้านต่างประเทศลดลง 11.8 เปอร์เซ็นต์ งบด้านการศึกษาลดลง 7.5 เปอร์เซ็นต์ สวนงบด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลดลง 9.1 เปอร์เซ็นต์
Photo : Anthony WALLACE / LEO RAMIREZ / AFP