ค่ำวานนี้ ( 24 พ.ค. 2563) นางไช่ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก แสดงจุดยืนอยู่เคียงข้างกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง โดยระบุว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เสนอโดยรัฐบาลจีน คือ ภัยคุกคามร้ายแรงต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมถึงอำนาจในการพิจารณาคดีของฝ่ายตุลาการฮ่องกง
"สี จิ้นผิง" เตือนไต้หวัน อย่าริแยกเอกราช
นางไช่ ระบุว่า กระสุนปืนและการกดขี่ใช้กำลังปราบปรามไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการรับมือกับความต้องการอิสรภาพและ ประชาธิปไตยของชาวฮ่องกง ในช่วงเวลาที่ผันผวนเช่นนี้ ประชาคมโลกต่างยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชาวฮ่องกงมากขึ้น ไต้หวันเองก็เช่นกัน เราพร้อมมอบความช่วยเหลือที่จำเป็น
ที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันพิจารณาให้ที่พักแก่กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงมาโดยตลอด แม้จะยังไม่มีกฎหมายผู้ลี้ภัยมารองรับ
ท่าทีของผู้นำไต้หวันมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ ชาวฮ่องกงหลายร้อยคนออกมารวมตัวกันในย่านคอสเวย์ เบย์ และวานไจ๋ ก่อนเดินขบวนไปตามท้องถนน บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อตำรวจปราบจลาจลตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยเข้าใส่ฝูงชน มีรายงานผู้ชุมนุมถูกจับกุมตัวไปกว่า 80 คน
อย่างไรก็ตาม นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ยืนยันจะไม่ยอมให้มีการเลื่อนหรือเกิดความล่าช้าในกระบวนการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากการประท้วงในฮ่องกงตลอดปี 2019 ที่ผ่านมา เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของจีน และเป็นการกระทำของชาวฮ่องกงที่มีแนวคิดหัวรุนแรง ไม่ใช่ความเห็นของชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ โดยคาดว่ากระบวนการร่างรายละเอียดของกฎหมายจะเริ่มต้นขึ้น หลังผ่านความเห็นชอบจากสภาประชาชนแห่งชาติจีน ที่จะทำการพิจารณากันในสัปดาห์นี้
ด้านนาย โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงประจำทำเนียบขาว ออกมาเตือนว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจพิจารณาคว่ำบาตรจีน และถอดสถานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกงในสหรัฐฯ หากรัฐบาลปักกิ่งยืนยันจะเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว
“โจชัว หว่อง” เรียกร้องไต้หวันร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง
“ไต้หวัน” กร้าวไม่ยอมเป็นเหมือน “ฮ่องกง”
กลุ่มหนุนนโยบายจีนเดียวชุมนุมในไต้หวัน
“ไต้หวัน vs อนามัยโลก” การเมืองเรื่องโควิด เมื่อชีวิตคนเป็นเบี้ยบนกระดาน