นายพชร อายุ 32 ปี หนุ่มรถจยย. คู่กรณีทำร้ายร่างกาย ลุงแท็กซี่วัย 75 ปี โดยใช้หมวกกันน็อกฟาดที่ศรีษะและชกใบหน้าหลายคนรั้ง จนเลือดอาบ ได้รับบาดเจ็บ วันนี้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ทันทีให้การเสร็จนายพชรกลับวิ่งหนีหลบหน้าสื่อ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์
หนุ่มหัวร้อนใช้หมวกกันน็อกฟาดลุงแท็กซี่ อ้างป้องกันตัว ตร.เตรียมแจ้งข้อหา
ขณะที่ นายเม้ง เเซ่เฮง ลุงคนขับรถแท็กซี่วัย 75 ปี เดินทางมาพบตำรวจในแต่คนละช่วงเวลาจึงไม่เจอหน้ากัน เปิดเผยภายหลังว่าตนขับรถจากหมอชิตมุ่งหน้าเเยกกำนันเเม้นเพื่อนำรถไปซ่อม โดยใช้ถนนกัลปพฤกษ์ วิ่งเลนขวามาตลอดทาง จากนั้นรถจยย.นายพชร มีภรรยานั่งซ้อนท้ายมาได้ขับมาเบียดรถของตน และเเสดงความไม่พอใจโดยการถีบรถเเท็กซี่เเละตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
จากนั้นนายพชร จอดรถให้ภรรยาลงระหว่างทางและขี่รถตามรถแท็กซี่ลุง โดยขี่ปาดดักหน้ารถในระยะกระชัดชิด จนรถยย.ของนายพชร ไถลไปชนกับรถกระบะสีขาวอีกคัน นายพชรเดินมาที่รถลุง ลุงเปิดกระจกรถลงขณะนั้น ถูกนายพชรใช้หมวกกันน็อกฟาดเข้ามาที่ศีรษะอย่างเเรงเเละถูกชกที่หน้าอีกหลายครั้ง ตนจึงเอื้อมมือไปหยิบไขควงที่อยู่หน้ารถนำมาใช้ป้องกันตัว เเละได้ลงจากรถไปเพื่อต้องการคุยกับนายพชร จนเกิดภาพในคลิปที่ปรากฏ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายเม้ง ลุงขับแท็กซี่ บาดเเผลตามร่างกายหลายจุด ประกอบด้วย ที่ศีรษะ เย็บ 2 เข็ม หน้าผาก เย็บ 3 เข็ม ข้อศอกขวา เย็บ 4 เข็ม ฟันหัก 2 ซี่เเขนทั้งสองข้างถลอกและบวมช้ำ หน้าตาบวมปูดและปวดชายโครงด้านขวา โดยนายเม้งบอกอีกว่านาย พชรทำรุนเเรงเกินไป ต่อไปนี้ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
เบื้องต้นเตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากยังให้การขัดแย้งกันโดยหนุ่มรถจยย. ให้การว่า ลุงคู่กรณีขับรถแท็กซี่มาเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตนก่อน ทำให้ภรรยาที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยได้รับบาดเจ็บ จากนั้นแท็กซี่ได้ขับหลบหนี ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามมาเจรจาที่บริเวณแยกบางพฤกษ์ แต่กลับถูกรถแท็กซี่พุ่งชนอีกครั้ง และนำไขควรจะเข้ามาแทงตน จึงต้องป้องกันตัวโดยการใช้หมวกกันน็อกฟาด
ส่วนลุงแท็กซี่ ก็ให้การว่านายพชร หนุ่มรถจยย.ได้ขี่รถมาเบียดรถยนต์ของตนก่อน และเเสดงความไม่พอใจโดยการถีบรถเเท็กซี่เเละตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นมีการขับปาดหน้ารถให้จอด จนลุงแท็กซี่ต้องเบรกกระทันหันทำให้รถจยย. คู่กรณีไถลชนรถคันอื่น และลงมาใช้หมวกกันน็อกฟาดทำร้าย
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายพชร ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ หลังจากนี้จะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุและสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง
มอบตัวแล้ว !! มอไซค์หัวร้อน หมวกกันน็อกฟาดตาแท็กซี่เลือดอาบ
