บรรยากาศการชุมนุมประท้วง ที่มีชนวนเหตุมาจากกรณีที่ตำรวจผิวขาวใช้กำลังจับกุม จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีในเมืองมินนิอาโพลิส รัฐมินนิโซตา จนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน ยังคงลุกลามรุนแรง
ทรัมป์ต้องไปหลบในบังเกอร์ใต้ดิน หลังเกิดประท้วงหน้าทำเนียบขาว
โดยขณะนี้ มีอย่างน้อย 40 เมืองใหญ่ รวมถึงกรุงวอชิงตันดีซี ที่ประกาศเคอร์ฟิว ควบคุมการประท้วง และมีหลายเมืองที่จะคงคำสั่งไว้ตลอดทั้งสัปดาห์นี้
ที่กรุงวอชิงตันดีซี เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเหตุปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณสวนสาธารณะใกล้กับทำเนียบขาว ผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามก่อจลาจล จุดไฟเผา ทรัพย์สินสาธารณะ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้แก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย และระเบิดแสง เพื่อสลายการชุมนุม
ผู้ประท้วงปะทะตำรวจในดีซีติดต่อกันเป็นคืนที่สาม แม้เคอร์ฟิวมีผลบังคับใช้
ส่วนสถานการณ์ที่เมืองมินนิอาโพลิส ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการประท้วง ดูจะคลี่คลายลงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีเหตุระทึกขึ้น เมื่อมีคนขับรถบรรทุกน้ำมันพุ่งตรงเข้าไปกลางฝูงชนจนแตะกระเจิง เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่คนขับถูกผู้ประท้วงลากตัวออกมารุมประชาทัณฑ์ ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวได้
ที่เมืองพอร์ตแลนด์ ผู้ประท้วงรวมตัวก่อความวุ่นวาย มีการปาพลุใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อระงับเหตุ
เมืองฟิลาเดลเฟีย กลุ่มผู้ประท้วงยังรวมตัวปล้มสะดมตามร้านค้า จนทางการต้องปรับเวลาเคอร์ฟิวให้เร็วขึ้น และสั่งปิดภาคธุรกิจ สถานที่ราชการทั้งหมดในวันนี้ (1 มิ.ย.)
ส่วนที่นครนิวยอร์ก ผู้ชุมนุมรวมตัวนั่งคุกเข่าประท้วงกลางจัตุรัสไทม์สแควร์ และในอีกหลายพื้นที่ เพื่อเป็นเกียรติแก่ จอร์จ ฟลอยด์ โดยที่ย่านควีนส์ มีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมนั่งคุกเข่าเพื่อแสดงจุดยืนร่วมกับผู้ประท้วงด้วย
ประท้วงสีผิวลามไปทั่วสหรัฐฯ แม้ตั้งข้อหาอดีตตำรวจแล้ว
ประท้วงการตายชายผิวสีขยายวงกว้างทั่วสหรัฐฯ
เตือน! คนไทยในสหรัฐฯหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม