มีรายงานว่า เมื่อคืนวันศุกร์และคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมอารักขาประธานาธิบดีตัดสินใจพาทรัมป์ลงไปหลบในบังเกอร์ป้องกันภัยที่ชั้นใต้ดินของทำเนียบขาว หลังสถานการณ์ในหลายเมืองใหญ่เริ่มดุเดือดจากการประท้วง
นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ประณามความรุนแรง วอนม็อบกลับบ้าน
อย่างไรก็ตามทรัมป์ยังคงทวิตข้อความอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเรียกกลุ่มผู้ประท้วงว่า “Thugs” หรืออันธพาล และเรียกร้องให้มีการปราบปรามผู้ประท้วง รวมทั้งประกาศให้กลุ่มเคลื่อนไหว ANTIFA ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวฝั่งซ้ายจัด และต่อต้านเผด็จการ ให้เป็นกลุ่มก่อการร้าย
ขณะที่นายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคแดโมแครตได้เดินทางลงพื้นที่การประท้วงที่รัฐเดลาแวร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวทวิตข้อความในทวิตเตอร์ว่า ตอนนี้สหรัฐกำลังเป็นชาติที่มีความเจ็บปวด แต่เราจะปล่อยให้ความเจ็บปวดนี้ทำลายเราไม่ได้ พร้อมโพสต์ภาพที่เขาไปพูดคุยกับครอบครัวชาวผิวสีอีกด้วย
ทรัมป์ยังมีการทวิตข้อความโจมตีฝั่งพรรคแดโมแครต โดยระบุว่า กล้าๆหน่อยผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรีที่เป็นสมาชิกพรรคแดโมแครต เรียกกองกำลังพิทักษ์ชาติมาจัดการผู้ประท้วงได้แล้ว ตอนนี้ทั่วโลกกำลังจ้องมองมาที่เราและหัวเราะใส่เรา รวมถึงหัวเราะใส่ sleepy Joe อยู่ แปลว่า โจคนขี้เซา
เตือน! คนไทยในสหรัฐฯหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ในระหว่างที่เกิดความรุนแรงภายในประเทศ ทรัมป์กำลังวุ่นวายกับการยกระดับสงครามใหญ่ครั้งใหม่ของจีน และกล่าวโทษจีนว่าอยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเขายังประกาศถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐทะลุ 1 ล้าน 7 แสนคนไปแล้วซีเอ็นเอ็นยังตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นตามปกติแล้ว ประธานาธิบดีคือคนที่ต้องเรียกร้องให้สังคมอยู่ในความสงบ และอาจจะมีการออกแถลงการณ์ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเห็นต่างกันรุนแรงในกลุ่มแนวร่วมและที่ปรึกษาของทรัมป์ ว่าเขาควรแถลงเกี่ยวกับเหตุประท้วงและจลาจลทั่วประเทศนี้อย่างไร โดยฝั่งหนึ่งเห็นว่าทรัมป์ควรแถลงอย่างเป็นทางการและเรียกร้องให้ชาวอเมริกันกลับสู่ความสงบ
ขณะที่อีกฝั่งเห็นว่าทรัมป์ควรประณามการจลาจลและปล้นสะดมรุนแรงกว่านี้ หากไม่ต้องการสูญเสียฐานผู้มีสิทธิ์ออกเสียงสายกลางในการเลือกตั้งปลายปี