จากกรณีนางสุรีพร ศรีทอง ชาว อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซื้อมือถือด้วยระบบเงินผ่อน แต่ผ่อนชำระได้เพียง 2 งวด จากนั้นไม่สามารถผ่อนส่งตามสัญญาได้จนถูกฟ้องร้อง สืบทรัพย์และยึดที่ดินผืนสุดท้ายที่อาศัยอยู่กว่า 10 ชีวิต ขายทอดตลาด นั้น
ครูร้อง เกือบ ถูกยึดบ้าน-ที่ดิน หลังศิษย์เกือบ 30 คนเบี้ยวจ่าย กยศ.
จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร เจ้าหน้าที่ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายทรงธรรม เกิดคุณธรรม นายก อบต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม ได้ช่วยไกล่เกลี่ยเจรจากับเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินรายใหม่เพื่อขอซื้อคืนในราคาที่ควรจะเป็นแต่ไม่สำเร็จ จนต้องพากันเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกช่วยเหลือเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก"กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม"ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในการดำเนินการของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก โดยโจทก์ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในอ.พรหม จ.พิษณุโลก ออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามหมายบังคับคดี ซึ่งปัจจุบันผู้ซื้อได้ชำระราคาค่าซื้อครบถ้วน และรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์ไปจากเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว
ในการบังคับคดีดังกล่าว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และได้แจ้งให้จำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ทราบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การยึดทรัพย์จนถึงการขายทอดตลาด ซึ่งจำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ไม่ได้แย้ง การบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีแต่อย่างใด เพียงแต่จำเลย และผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมมือความประสงค์ที่จะขอซื้อทรัพย์ดังกล่าวคืนจากผู้ซื้อเท่านั้น
ทั้งนี้ในการแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น กรมบังคับคดีพร้อมที่จะช่วยเหลือในการนัดหมายผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
อดีตอธิบดีกรมบังคับคดี อธิบายชัด การฟื้นฟูกิจการ กับ การล้มละลาย เป็นถนนคนละเส้น