“เพื่อไทย” จี้ รัฐบาล เร่งประสานกัมพูชา ปกป้องชีวิต “วันเฉลิม”
ภาพจากวงจรปิดจากร้านกาแฟใกล้กับคอนโด กลางกรุงพนมเปญจุดที่วันเฉลิมถูกอุ้มหายไป พบรถสีขาวขับออกมา ตามด้วยรถคันสีดำ ซึ่งพยานในที่เกิดเหตุยืนยันว่าทั้ง 2 คันนี้คือรถที่ก่อเหตุพาตัวนายวันเฉลิมไป นี่เป็นเบาะแสล่าสุดเพียงอย่างเดียวที่ครอบครัววันเฉลิมได้เพิ่มมาตอนนี้
“สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” พี่สาวของนายวันเฉลิม ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า ปกติแล้วคุยโทรศัพท์กับน้องชายประจำ โดยวันที่เกิดเหตุก็กำลังโทรคุยกันอยู่ นายวันเฉลิมบอกว่ากำลังซื้อลูกชิ้น จังหวะนั้นได้ยินเสียงดังปัง ก่อนมีเสียงโวยวายภาษาเขมร สลับกับเสียงนายวันเฉลิมร้องว่า "หายใจไม่ออก" ต่อเนื่องถึง 30 นาที ก่อนสายจะถูกตัดไป
พี่สาวจึงตัดสินใจโทรหาพี่ที่สนิทในกรุงพนมเปญให้ช่วยดูน้องชาย เพราะเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่สุดท้ายกลับได้รับคำตอบว่า นายวันเฉลิมถูกอุ้มหายไป โดยมีพยานเห็นเหตุการณ์และพยายามเข้ามาช่วยหลายคน แต่คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน พร้อมอาวุธครบมือจึงช่วยไว้ไม่ได้ โดยการให้สัมภาษณ์ทีมข่าววันนี้ พี่สาวนายวันเฉลิม ยังขอทีมข่าวช่วยปิดบังใบหน้าไว้ก่อน จนกว่าจะถึงเวลาสมควรที่มั่นใจในความปลอดภัยขึ้น และขอให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น
พี่สาวนายวันเฉลิม ปฎิเสธที่จะพูดถึงปมเหตุของการถูกอุ้มหายไปในครั้งนี้ ยืนยันเพียงว่าน้องชายเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ที่ลี้ภัยไปอยู่กัมพูชา และไม่ได้มีศัตรูที่ไหนส่วนตัว ซึ่งการไปอยู่กรุงพนมเปญก็มีแผนจะช่วยเรื่องสาธารณสุขให้กับคนกัมพูชาในอนาคตด้วย
“บิ๊กป้อม” ชี้ คดี“วันเฉลิม” เป็นเรื่องของกัมพูชา อยู่ระหว่างประสานงาน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัว โดยเฉพาะแม่รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ยังเชื่อว่านายวันเฉลิมจะยังมีชีวิตอยู่
ขณะที่นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ประเทศไทย เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ได้ติดต่อไปยังทางการกัมพูชา แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่ทราบเรื่อง และไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่ควรต้องแสดงความรับผิดชอบหลัก ก็คือ รัฐบาลกัมพูชา เพราะเหตุเกิดขึ้นที่กัมพูชา และเป็นเหตุอุกอาจที่เกิดขึ้นกลางวัน มีพยานรู้เห็นมากมาย จะปฏิเสธไม่รู้เห็นไม่ได้ ในขณะที่รัฐไทย โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องติดตามทวงถามไปยังทางการกัมพูชาในฐานะที่ต้องดูแลพลเมืองไทยทุกคนตามรัฐธรรมนูญ
ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ประเทศไทย ยังระบุด้วยว่า กรณีการอุ้มหายของนายวันเฉลิม เข้าหลักเกณฑ์ "การบังคับให้สูญหาย" ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ เพราะมีภาพและพยานเห็นชัดเจนว่าถูกพาตัวไปโดยไม่เต็มใจ ซึ่งกัมพูชามีสถานะเป็นภาคีด้วย ดังนั้นจึงต้องดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามพันธะสัญญา ซึ่งหากไม่ทำตาม ผลที่ตามมา กัมพูชาจะเสียงภาพลักษณ์และอาจถูกตัดความช่วยเหลือจากนานาประเทศ
ขณะที่ล่าสุดกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สปริงส์มูฟเมนต์ ได้ออกมาเคลื่อนไหว นำภาพถ่ายของบุคคลที่มีรายชื่อถูกอุ้มหายไปทั้งหมดในประเทศไทยมาแปะตามสถานที่ต่างๆ ตามหาคนหาย เช่นที่ริมถนนพหลโยธินเลย สน.บางซื่อ ไปราว 100 เมตร ซึ่งล่าสุดมีเจ้าหน้าที่มาฉีกกระดาษเหล่านี้ออกไปแล้ว
โฆษกตร.กัมพูชา เผย ยังไม่มีข้อมูล “วันเฉลิม” หายตัว
นอกเหนือจากความเห็นของกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนแล้ว ล่าสุด น.ส.มารีญา พูลเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017 โพสต์แสดงความเห็นเรื่องนี้ลงในไอจี สตอรี่ ระบุว่า ไม่รู้ว่าอยู่ข้างเดียวกับนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือไม่ เพราะ ยังไม่มีข้อมูลมากพอ แต่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ผิดและต้องการคำตอบของเรื่องนี้
นอกจากนี้ยังตั้งคำถามถึงเรื่องเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ว่า “เราอยู่ในที่แบบไหนกัน หากเราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้”
ในช่วง2-3วันนี้ ไม่เฉพาะมารียา อีกคนที่ออกมาพูดถึงการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ก่อนหน้านี้ คือ น.ส.ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก ในฐานะทูตสันทวไมตรีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ที่ถูกคนในโลกออนไลน์ แสดงความไม่พอใจ หลังมีคนเข้าไปถามในไอจี ว่า มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องการหายตัวไปของวันเฉลิม และ ปู ไปรยา ตอบว่า ตัวเองสนับสนุนความสงบในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จนกลายเป็นประเด็นความไม่ความพอใจ และคนที่ไม่เห็นด้วยก็เข้าไปวิจารณ์การแสดงความเห็นของ ปู ไปรยา จำนวนมาก จนสุดท้าย เธอโพสต์ข้อความในไอจี ขอโทษพร้อมบอกว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ภาคประชาชนจี้รัฐเร่งประสานช่วยตามตัว“วันเฉลิม”