ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านบิ๊ก 20 ถนนกาดน้ำทอง อ.เมือง จ.แพร่ ได้มีตำรวจ ชุด มอก.เข้าทำการตรวจค้นในร้าน และพบของที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวน 4 รายการและให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะส่งให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่
สมอ.แจงรายชื่อสินค้าต้องควบคุม ยันไม่ปิด “ร้านทุกอย่าง 20 บาท”
นายภิญโญ สุวรรณกิจ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านได้โทรศัพท์แจ้งสื่อมวลชนว่า ถูกตำรวจมาตรวจค้นและเรียกเก็บเงินที่ร้านดังกล่าวพบกำลังมีการตรวจค้นและทำการบันทึกรายละเอียด สิ่งของภายในร้าน
เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนเองประกอบอาชีพด้วยขายของ ราคา 20 บาท ทุกชิ้น สินค้ามีเป็นหมื่นๆรายการ หลังจากเปิดก็มีตำรวจ เขาอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ มอก.มาทำการตรวจค้น และพบสินค้า 4 รายการ เป็นของเล่นเด็กในราคา ตัวละ 20 บาท เจ้าหน้าที่ที่มาตรวจค้น แจ้งว่ามีสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และข่มขู่หากไม่จ่ายจะถูกจับ
เริ่มแรกตนยอมจ่าย 35,000 บาท และจ่ายเป็นรายเดือน 1,500 บาท และยังมีตำรวจเทศกิจมาอีก ก็ยอมจ่ายเดือนละ 1,000 บาท มาวันนี้ไม่ไหวแล้วขายของก็ไม่ดี ไม่ยอมจ่ายแล้ว อย่างมากก็ปิดร้าน เพราะตนไม่รู้ว่าสินค้าตัวไหนไม่ได้มาตรฐาน เพราะสั่งซื้อมาเป็นหมื่นๆรายการอย่างละเล็กละน้อย แล้วก็ขายทุกอย่าง 20 บาท บางชิ้นก็ขาดทุนเราไม่ว่าเพราะเป็นการเรียกลูกค้า แล้วยังจะต้องมาจ่ายส่วยกันอีก มันไม่ไหวจริงๆ
นายภิญโญ เผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ มีโทรศัพท์มาแจ้งให้ตนจ่ายส่วย แต่ตนไม่จ่าย เขาก็บอกว่าถ้าไม่โอนเงินมาก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับตนก็ไม่ยอมจ่ายเพราะตัดสินใจแล้วจะไม่ยอมเสียอีก กระทั่งวันที่(8 มิ.ย.) ตำรวจชุดนี้ก็มาจริงๆ ตนก็เลยแจ้งให้ตำรวจในพื้นที่มาช่วยดูด้วยและทำการบันทึกขึ้นศาลก็ยอมขึ้น ตนเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว
ด้าน พ.ต.อ ชูวิช กองแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า เรื่องนี้หากเจ้าทุกข์มีหลักฐานเข้ามาร้องทุกข์หรือมาแจ้งความ ทางตำรวจในพื้นที่สามารถสืบสวนสอบสวนเอาตัวการรีดไถนี้มาลงโทษได้แน่นอน และยืนยันว่าตำรวจในพื้นที่ไม่มีหน้าที่ในการเข้าตรวจค้นจับกุม
อีกอย่างร้านค้าในเวลานี้ หากไปรีดไปไถกันตามที่เจ้าของร้านบอกมา ก็ไม่ไหว เหมือนซ้ำเติมผู้ประกอบการ ผิดถูกควรให้มีการสอบสวนเข้ากระบวนการ ตนจะสอบเรื่องนี้หากพบว่าเป็นตำรวจในพื้นที่ ยืนยันจะไม่เอาไว้เด็ดขาด
สองสามีภรรยา ร้องภาค 5 ถูกตร.รีดไถเงิน 3 แสน
