ศบค. ไฟเขียว “จับคู่ประเทศ” ต่างชาติเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว 14 วัน รอแผนจาก 4 กระทรวง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รองโฆษกนายกรัฐมนตรี เผย ศบค. อนุมัติหลักการจับคู่ประเทศ (Travel bubble) เปิดทางนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทย ด้าน 4 กระทรวง เตรียมแผนเสนอ ศบค. 17 มิ.ย.นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจไทยมีศักยภาพท่องเที่ยว-สาธารณสุข รับมือโควิด-19 ได้

อัพเดตโควิด-19 ศบค.เผย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นนักเรียนไทยกลับจากอเมริกา เปิด 5 ประเทศวิกฤต

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 14 มิ.ย. 63

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจในศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ของไทย จึงได้ผลักดัน Travel bubble หรือ การจับคู่ประเทศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่สามารถจัดการโรค โควิด-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน ซึ่งเป็นความร่วมมือในลักษณะทวิภาคีด้านการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ทั่วโลกกำลังหันมาสนใจ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มดีขึ้น โดยล่าสุดที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นของการหารือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาข้อสรุปในแนวทางการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็น แนวทางการเจรจากับประเทศกลุ่มเป้าหมาย ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด ก่อนเสนอ ศบค.พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ 

รองโฆษกนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยและทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงหวังให้ Travel bubble เป็นจุดเริ่มต้นในการรองรับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย โดยไทยมีจุดแข็งในการรับมือกับโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ระยะแรกจะเปิดรับกลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มที่ต้องการเข้ามารักษาพยาบาลในไทย คาดว่าจะชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณวันละ 1,000 คน ซึ่งเมื่อดำเนินการไปสักระยะหนึ่ง แล้วพบว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี ก็จะพิจารณาให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ เข้ามาตามลำดับ

สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวตามแนวทาง Tavel bubble จะไม่มีการกักตัว 14 วัน แต่มีมาตรการอื่นรองรับ เพื่อสร้างความไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยเริ่มจากการเลือกประเทศกลุ่มเป้าหมายที่มีความปลอดภัย สามารถควบคุมโรคได้ดี ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทางและตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงไทย อาจกำหนดพื้นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปได้ มีการติดตามตัวผ่านแอปพลิเคชั่นตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองไทย และที่สำคัญชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในไทยนั้น ล้วนมาจากประเทศที่มีความสามารถรับมือกับโควิด-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน

"ประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง แม้เจอสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็สามารถรับมือได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและความสามารถด้านสาธารณสุขของไทย จะกระตุ้นให้ชาวต่างชาติมองเป็นจุดแข็งของประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น และการท่องเที่ยวจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกเริ่มดีขึ้น" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

"หมอธีระ" ค้านนโยบาย "จับคู่ประเทศ" Travel bubbles ลั่น อย่าให้ "การเมือง" ตัดสินใจ

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ