กรมควบคุมโรคเตือนคนเกิดก่อน พ.ศ. 2535 เสี่ยงเชื้อไวรัสตับอักเสบ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมควบคุมโรค เตือน ภัยเงียบจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบ บีและซี ที่เป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย โดยเฉพาะประชาชนที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2535

นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดี และโฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบสามารถถ่ายทอดเชื้อสู่ผู้อื่นได้ และเป็นสาเหตุนำไปสู่ภาวะตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับได้ โดยมี 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบที่เป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ บี และซี

เจาะลึกมะเร็ง ลามกระดูกหัก อายุ 40 ต้องระวัง ไม่ใช่แค่ตับ ความเสี่ยงไวรัสตับอักเสบบีโอกาสสู่มะเร็ง

โดย สถานการณ์โรคไวรัสตับอักเสบในประเทศไทย พบว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บีเรื้อรัง ประมาณ 2.2 – 3 ล้านคน มีอัตราความชุกประมาณร้อยละ 4 – 5 ของประชาชนที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2535 ทำให้ปัจจุบันพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง ในประชากรที่อายุ 30 ปีขึ้นไปเป็นส่วนมาก

ส่วนประชาชนที่เกิดหลังปี พ.ศ.2535 ได้มีการบรรจุวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนของประเทศ ทำให้พบอัตราความชุกที่ลดลง ร้อยละ 0.6 

ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี คือ กลุ่มประชากรที่เกิดก่อนปีพ.ศ. 2535 ซึ่งต้องมาตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป  ส่วนผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ประมาณ 7.5 แสนคน พบมากในผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด

​"มะเร็งตับ" เพชรฆาตร้าย.. ชายเป็นมากกว่าหญิงเท่าตัว !

สำหรับอาการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ โรคตับอักเสบเฉียบพลัน และโรคตับอักเสบเรื้อรัง

อาการของโรคตับอักเสบเฉียบพลัน  จะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง มีไข้ ปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา เซลล์ตับถูกทำลาย ซึ่งผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี มีเพียงร้อยละ 5 - 10 ที่มีโอกาสเป็นตับอักเสบเรื้อรัง 

ส่วนโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง จะมีอาการนานเกินกว่า 6 เดือน โดยแบ่งได้อีกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1. ชนิดตับอักเสบเรื้อรังไม่รุนแรง (Chronic Persistent) แบบค่อยเป็นค่อยไป

2. ชนิดตับอักเสบเรื้อรังแบบรุนแรง (Chronic Active Hepatitis) เป็นอาการอักเสบที่เกิดจากตับถูกทำลายไปมาก และเกิดอาการตับแข็ง ในผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการเกิดขึ้น แต่เชื้อไวรัสจะทำลายตับไปเรื่อยๆ จนเกิดอาการตับแข็ง และท้ายสุดก็จะกลายเป็นมะเร็งตับ

สำหรับไวรัสตับอักเสบซี ไม่สามารถพยากรณ์โรคได้ว่าจะเป็นแบบไวรัสตับอักเสบบี เนื่องจากหลังการติดเชื้ออาจเกิดมะเร็งตับ โดยไม่ต้องมีภาวะตับแข็งก่อนได้ และการรักษาโดยใช้ยาต้านไวรัสตับอักเสบซี ที่ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ สามารถรักษาให้หายได้ เพียงรับประทานยาต่อเนื่อง 4 เดือน

ครอบครัว “ตั้ว ศรัณยู” แถลงสาเหตุเสียชีวิต

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ