สทท.วอนรัฐ ทบทวนให้โรงแรมเล็ก ร่วมโครงการกระตุ้นท่องเที่ยว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จากมติครม.ที่เห็นชอบในหลักการ 3 โครงการกระตุ้นไทยเที่ยวไทย กรอบวงเงินกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ด้านความเห็นจากภาคเอกชน อย่าง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) ก็ระบุว่า ก่อนที่จะออกมาเป็นมาตรการในเดือนกรกฎาคม อยากให้รัฐบาลทบทวนให้ผู้ประกอบการ ที่พัก โรงแรมรายเล็กทั่วประเทศได้เข้าร่วมโครงการอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ให้สิทธิ์แค่โรงแรมจดทะเบียนถูกต้องเท่านั้น

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 17 มิ.ย. 63

อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 17 มิ.ย. 63

สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย 3 แพ็กเกจ ประกอบด้วย

1. โครงการ “กำลังใจ” ตอบแทนบุคลากรการแพทย์ในการรับมือโควิด ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวม 1 ล้าน 2 แสนคน ได้สิทธิ์เที่ยวฟรี ผ่านบริษัทนำเที่ยวไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน โดยรัฐสนับสนุนไม่เกิน 2,000 บาท รวมงบประมาณ 2,400 ล้านบาท

2. โครงการ “เราไปเที่ยวกัน” โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พัก จำนวน 5 ล้านห้อง / ในอัตรา40% ต่อคืน ไม่เกิน3,000บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าใช้จ่ายและค่าอาหารสถานที่ ที่เข้าร่วมรายการ 600 บาทต่อคืนต่อห้อง และต้องเป็นจังหวัดที่ไม่ใช่ในทะเบียนบ้าน งบประมาณ 18,000 ล้านบาท

3. โครงการ “เที่ยวปันสุข” คือ รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 40 % แต่ไม่เกิน1,000 บาท ในการใช้จ่ายบัตรโดยสาร 3 ประเภท คือ สายการบินในประเทศ / ขนส่งไม่ประจำทางข้ามจังหวัด และรถเช่า ซึ่งในโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” หากประชาชนลงทะเบียน ก็จะสามารถรับสิทธิ์รับส่วนลด 40% ของ”เที่ยวปันสุข” ได้ด้วย

ครม.เห็นชอบ“เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน-กำลังใจ” กระตุ้นท่องเที่ยว เริ่มก.ค. –ต.ค.นี้

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. แสดงความเห็นต่อมาตรการกระตุ้นไทยเที่ยวไทย 3 แพ็คเกจ คือ กำลังใจ , เราไปเที่ยวกัน และ เที่ยวปันสุข ว่าถือเป็นมาตรการที่ค่อนข้างครบถ้วน กระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนของแพ็คเกจ “เราไปเที่ยวกัน” ที่มีการแจกเงินเป็นรูปแบบ Co-pay 600 บาทต่อวัน เพื่อให้สามารถ ซื้อสินค้าและบริการรวมถึงร้านของฝากต่างๆได้ ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้

แต่ประเด็นที่ สทท. อยากให้รัฐบาลทบทวน คือ การร่วมโครงการของผู้ประกอบการโรงแรม ที่รัฐบาลจำกัดให้เพียงผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาต ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่เพียง 30 % ของที่พักทั้งหมด ซึ่งหากเป็นไปตามมติเมื่อวาน อาจหมายถึงว่าโรงแรมหรือที่พักเล็กๆ ที่อยู่พื่นที่ชุมชน ก็จะไม่ได้ประโยชน์จากโครงการนี

สอดคล้องกับ นายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทย ที่อธิบายว่า ปัญหาเรื่องการขออนุญาตโรงแรมให้ถูกต้องตามกฎหมายเป็นปัญหาเก่าของวงการท่องเที่ยว ที่ผ่านมายุคคสช. เคยออกประกาศ คสช.ที่ 6/2562ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มาลงทะเบียนเพื่อขอเวลาในการปรับปรุงให้ถูกต้อง ซึ่งประกาศฉบับนี้ได้ยกเว้นโทษถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เท่ากับว่า ผู้ประกอบการกลุ่มที่มาลงทะเบียน ก็จะไม่สามารถโครงการนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 100 % จึงอยากให้รัฐบาลอนุโลมให้ ผู้ประกอบการที่แจงความจำนงค์กลุ่มนี้ ได้เข้าร่วมโครงการด้วย เพื่อความเท่าเทียมในการกระจายรายได้

ประเด็นนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า ยอมรับว่ามาตรการที่ออกมาไม่สามารถช่วยคนทุกกลุ่มได้ในเวลาเดียวกัน จะมีโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตทุกต้องตามกฎหมาย และโฮมสเตย์ ที่ลงทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว ร่วมโครงการนี้โดยตรง ส่วนที่พักประเภทอื่นๆ ต้องรอมาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลอาจพิจารณาออกมาในอนาคต

หลังจากนี้ ททท.ต้องเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้เดินทางได้ทันภายในวันที่ 1 กรกฎาคม คาดว่ามาตรการกระตุ้นเที่ยวในประเทศ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจทางตรง ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท และทางอ้อม 2.5 หมื่นล้านบาท รวม 7 หมื่นล้านบาท จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ รายได้ในภาคการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.23 ล้านล้านบาท

เอกชนขานรับ “เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน-กำลังใจ” เตรียมโรงแรมกว่า 5,000 ห้องรับ นทท.

 

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ