อุทธรณ์ ยกฟ้อง 8 กปปส. ปรับ 2หมื่น แกนนำ ขวางเลือกตั้ง 'สุเทพ'ครวญ ไม่หวังนิรโทษกรรม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง 8 ผู้ชุมนุม กปปส. ขวางเลือกตั้งล่วงหน้าเขตทุ่งครุ ปี 57 สั่งปรับ 2 หมื่นแกนนำสั่งขวางตัดโซ่ 'สุเทพ' ครวญ กปปส.ทำเพื่อชาติ คดีเพียบแต่ไม่หวังนิรโทษกรรม

วันที่ 18 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.338/2560 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ปราณี ธรรมนิยม, นายชวลิต ศิริกังวาลกุล, นายทองใบ แจ่มจำรัส, นายทวี โพธิ์ดำ, น.ส.กฤษณา น้อยปลา, นายณรงค์ ปิณฑรัตนวิบูลย์, นายทวี อับดุลเลาะห์, น.ส.กุสุมา อินสมะพันธ์, นางจารุวรรณ แสงอรุณ และ น.ส.ปาตีเมาะ แสงสว่าง เป็นจำเลยที่ 1-10 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76,152

ยกฟ้อง 4 กปปส. ข้อหากบฏ ชี้ชุมนุมโดยสงบใต้กรอบรัฐธรรมนูญ

กรณีวันที่ 26 ม.ค. 2557 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสิบกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ(รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) และนางทยา ทีปสุวรรณ ซึ่งแยกไปดำเนินคดีต่างหากแล้ว กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ประมาณ 50 คน ไปปิดล้อมทางเข้าสำนักงานเขตทุ่งครุ ซึ่งเป็นที่เลือกตั้งกลางประจำเขตเลือกตั้งที่ 26 กรุงเทพมหานคร อันเป็นสถานที่ที่กำหนดให้ทำการลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งทั่วไป จำเลยกับพวกร่วมกันนำรถไปจอดหน้าสำนักงาน พากันไปยืนและนั่งขวางหน้าประตู ใช้โซ่ขนาดใหญ่คล้องบานประตูทางเข้า-ออก ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งและประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถเข้าไปในสำนักงานเขตทุ่งครุได้

คดีนี้จำเลยที่ 3 เสียชีวิต ศาลจึงให้จำหน่ายส่วนของจำเลยที่ 3 ออกจากสารบบความ ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-2, 6-7 คนละ 1 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 4-5, 8-10 คนละ 1 ปี คำเบิกความของจำเลยที่ 1-2, 4-10 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2, 6-7 คนละ 1 ปี จำเลยที่ 4-5, 8-10 คนละ 8 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 1-2, 4-10 คนละ 5 ปี จากนั้นพวกจำเลยยื่นอุทธรณ์และได้รับการประกันตัว

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ ในส่วนของจำเลยที่ 1 โจทก์มีตำรวจ สน.ทุ่งครุ เป็นพยาน เบิกความพบจำเลยที่ 1 กำลังพูดโทรโข่งเรียกกลุ่มคนให้เข้าไปขัดขวางตำรวจที่จะตัดโซ่คล้องปิดประตูสำนักงานเขตทุ่งครุ ศาลเห็นว่าพยานโจทก์เป็นข้าราชการตำรวจท้องที่ จำเลยที่ 1 เป็นสมาชิกสภาเขตท้องที่ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏมูลเหตุจูงใจที่พยานจะปรักปรำจำเลยที่ 1 น่าเชื่อว่าพยานเบิกความไปตามที่พบเห็น ประกอบกับจำเลยที่ 1 รับว่าวันเกิดเหตุได้มาที่สำนักงานเขตทุ่งครุ พูดโทรโข่งรณรงค์ให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง 

จำเลยที่ 1 เป็นผู้นำชุมชนในท้องที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจขอเจรจาให้จำเลยที่ 1 เปิดประตูสำนักงานเขต หากจำเลยที่ 1 ไม่มีส่วนรู้เห็นก็น่าจะเจรจากับกลุ่มบุคคลขอให้เปิดกุญแจที่คล้องโซ่ ไม่ปฏิเสธหนักแน่นว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และใช้โทรโข่งเรียกมวลชนขัดขวางมิให้ตำรวจตัดโซ่ ประกอบกับพยานบุคคลเบิกความเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 คุยให้ฟังว่า นายณัฏฐพลเป็นผู้มอบโซ่และกุญแจให้จำเลยที่ 1 จำนวน 3 ชุด ไปปิดประตูสำนักงานเขตทุ่งครุ พยานโจทก์ที่สืบมามีน้ำหนักมั่นคง ส่วนที่จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยเพียงแต่พูดโทรโข่งเรียกมวลชน ไม่ได้กระทำด้วยความรุนแรง สมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีด้วยการรอการลงโทษจำคุก แต่เพื่อให้หลาบจำจึงให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่ง

สำหรับจำเลยที่ 2, 4-10 โจทก์ไม่มีพยานมานำสืบให้เห็นว่ามีพฤติกรรมหรือการกระทำใดอันเป็นการขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งแต่อย่างใด จำเลยไม่มีการปิดบังอำพรางใบหน้า ชุมนุมอย่างเปิดเผย ด้วยความสงบปราศจากความรุนแรง แม้มีเจตนาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลที่ใช้โซ่คล้องแล้วใส่กุญแจปิดสำนักงานเขตทุ่งครุ ก็ไม่อาจถือว่าจำเลยที่ 2, 4-10 เป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย การกระทำของจำเลยที่ 2, 4-10 ไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2, 4-10 ฟังขึ้น

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 30,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงปรับ 20,000 บาท โทษจำคุก 1 ปี ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 2, 4-10 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

อัยการสั่งฟ้อง “สุเทพ” พร้อม 8 แกนนำ กปปส. ข้อหา “กบฏ”

'สุเทพ' เห็นใจ 'หม่อมเต่า' ลา รปช. อึดอัดทำงานกับพรรค เผยวางตัว 'เอนก' นั่ง รมต.แต่แรก

 

 

 

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ยังกล่าวถึง คดีการชุมนุมของ กปปส. เมื่อปี 2556-57   ว่า เราต่อสู้คดีในชั้นศาลมา 1 ปีกว่าแล้ว ภายในเดือนหน้าก็จะสืบพยานโจทก์-จำเลยเสร็จ หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะพิพากษาอย่างไร เราก็ยอมรับทุกอย่าง ซึ่งจำเลยมีพวกตนที่เป็นแกนนำ 9 คน และมีผู้ชุมนุมที่ติดร่างแหไปด้วยอีก 30 คน รวมจำเลยทั้งหมด 39 คน  วันนี้ก็คาดว่านายถาวร เสนเนียม , นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ , นายสุริยะใส กตะศิลา ก็จะมาเบิกความต่อศาล

 “ถือว่าเราได้กระทำการช่วยชาติ ช่วยแผ่นดินโดยสุจริตใจ เมื่อตอนที่จะออกมาชุมนุมเดินขบวน เราก็รู้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องถูกดำเนินคดีในหลายคดี รู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกปองร้าย คนเดินขบวนกับเราเสียชีวิตไปตั้ง 24 คน บาดเจ็บ 800 กว่าคน เราก็รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นผู้เสียสละ ที่พวกเราถูกดำเนินคดีก็เป็นเรื่องที่คาดคิดไว้ก่อนแล้ว พร้อมที่จะต้องสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้เรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรม กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย” นายสุเทพกล่าว

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ