เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2563 ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุคดีลูกสาวฆ่าพ่อและตัดอวัยวะเพศ ในซอยชุมชนท่าทราย3 แขวงทุ่งสองห้อง กทม. ได้พูดคุยสอบถามกับเพื่อนบ้านผู้ตาย ในประเด็นที่ลูกสาวผู้ก่อเหตุให้การอ้างว่าหนึ่งสาเหตุที่ฆ่าพ่อตนเองนั้นมาจากความโกรธแค้นที่พ่อล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว ของตนเอง มีความเป็นไปได้หรือไม่
ลูกสาว ใช้มีดฟันพ่อตาย ก่อนเฉือนอวัยวะเพศทิ้ง
โดยหนึ่งในเพื่อนบ้านคนแรก เล่าว่า ตนเมื่อหลายปีก่อน ตนเองเคยเห็นหญิงผู้ก่อเหตุ พาสามี และลูกสาวมาอยู่บ้านผู้ตายหลังนี้ แต่สามีของเธอมีปัญหากับผู้ตายบ่อยครั้ง จนถึงขั้นย้ายออกจากบ้านไปอยู่ข้างนอก จากนั้นก็ยังเห็นว่าหญิงผู้ก่อเหตุก็ยังแวะเวียน กลับมาหาผู้ตาย ที่บ้านบ่อยครั้ง แต่มาเพียงคนเดียวเพื่อมาขอเงินผู้ตาย และมักจะทะเลาะกันบ่อยครั้งจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อว่าผู้ตายจะเคยข่มขืนหลานของตนเอง ตามที่แม่เด็กกล่าวอ้าง เพราะนิสัยของผู้ตายเป็นคนรักเด็ก
ขณะที่เพื่อนบ้านอีกกลุ่ม ให้ข้อมูลว่าเคยเห็นหญิงผู้ก่อเหตุ พาสามี และลูกสาว แวะเวียนเข้ามาหาผู้ตายที่บ้านหลายครั้ง และบ่อยครั้งก็จะเห็นผู้ตายให้เงินหลานไว้กินขนม แต่พอช่วงหลังเห็นหญิงผู้ก่อเหตุมาหาผู้ตายที่บ้านเพียงคนเดียว ไม่ได้พาลูกสาวมาด้วย ขณะนั้นทราบเพียงว่าสามีผู้ก่อเหตุติดคุก แต่ไม่รู้เรื่องอะไร ซึ่งบางวันเคยเห็นหญิงผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรม แต่งตัวทาปาก ออกมาเดินช่วง ตี4-ตี5 ที่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้สนใจอะไร ส่วนพฤติกรรมผู้ตายที่ผ่านมา ตนมองว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ร่าเริง แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ทำให้เชื่อว่า ผู้ตายไม่น่าจะทำร้ายหลานของตัวเองได้
มูลนิธิเพื่อนหญิง เผย หญิงไทยร้องเรียนความรุนแรง 100 คน/เดือน
ด้านนายแพทย์บุรินทร์ สุรอรุณสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต อธิบายถึงพฤติกรรมหญิงผู้ก่อเหตุ ที่อาการพูดจาวกไปวนมา พูดจาเรื่องเดิมซ้ำ ๆ เช่นพฤติกรรมที่เธอให้การกับตำรวจ หรือระหว่างที่สื่อถามก็พบว่าเธอตอบคำถามได้ปกติ แต่เวลาที่เธออยู่คนเดียวชอบพูดจาคนเดียว เป็นประโยคเหมือนพูดถามตอบอยู่กับใครนั้น น่าจะเป็นอาการทางจิต เพราะหากดูจากประวัติ พบว่ามีการเสพยาเสพติดร่วมด้วย และอาการทั้งหมดที่ปรากฏตามข่าว ถือเป็นอาการของคนโรคจิต ที่เสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง
ทั้งนี้ส่วนการพูดคุยเดียว หากพูดพึมพำ แพทย์อธิบายว่า ไม่ถือว่ามีความผิดปกติทางจิต แต่ถ้าพูดคนเดียว พูดเป็นประโยคคล้ายพูดตอบโต้กับคนอื่น เป็นอาการที่ถือว่าอันตราย และต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ทันที ซึ่งที่ควรสังเกตหากพบคนที่มีอาการ แต่งตัวแปลก ๆ ไม่หลับไม่นอน เดินไปเดินมา พูดจาคนเดียว หงุดหงิดฉุนเฉียว และเที่ยวหวาดระแวง อาการเหล่านี้คือกลุ่มคนที่มีอาการทางจิต
สำหรับประเด็นความกดดันต่าง ๆ จากครอบครัว ทั้งสามีข่มขืนลูกตัวเอง หรือ การที่ทะเลาะกับพ่อบ่อย นายแพทย์บุรินทร์ ย้ำว่า เป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะปัจจัยที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก เพราะจะส่งผลให้อาการกำเริบได้ ส่วนประเด็นที่หญิงผู้ก่อเหตุ ตัดอวัยวะเพศของผู้ตาย เป็นการถูกกระทำฝังใจหรือไม่ แพทย์ระบุว่าพฤติกรรม ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ ว่าผู้ก่อเหตุจะฝังใจกับเรื่องที่ถูกกระทำทางเพศเสมอไป
