เกิดเหตุภรรยาสาวของนายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” สน.วังทองหลาง ถูกยิงเสียชีวิตปริศนาคาบ้านพัก โดยนายตำรวจแฟนหนุ่มให้การอ้างฆ่าตัวตาย ขณะที่ด้านญาติไม่เชื่อ พบพิรุธ ผู้ตายถนัดมือขวา แต่มีรอยกระสุนที่ศีรษะด้านซ้าย
สั่งห้ามเยี่ยม "บรรยิน" ลูกสาวเผย พ่อ เศร้า เครียด เชื่อคิดฆ่าตัวตาย
เมื่อบ่ายวานนี้ (20 มิถุนายน) ร.ต.อ.วิโรจน์ สุชาติ รอง สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งพบศพถูกยิงเสียชีวิต ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งถนนแฮปปี้แลนด์สายเก่า ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณห้องโถงชั้นล่างบนโซฟา พบศพ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ถูกคลุมด้วยผ้านวม สภาพศพใส่ชุดนอนสีน้ำเงิน บาดแผลถูกกระสุนปืนขนาด .45 ยิงเข้าศีรษะซ้าย 1 นัด สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตคบหากับ ร.ต.อ.คนหนึ่ง อยู่ที่ สน.วังทองหลาง
สอบสวนลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.เอ ผู้เสียชีวิต ให้การว่า น.ส.เอ มีลูกกับ ร.ต.อ.นายดังกล่าว อายุ 4 ขวบ 1 คน โดยทั้งสองคบกันมาหลายปี และแม่นายตำรวจคนดังกล่าวเป็นผู้ซื้อบ้านหลังเกเหตุเมื่อประมาณ 2 เดือน ที่ผ่านมา ทั้งสองมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อยมาถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายกัน และ น.ส.เอ เคยถูกนายตำรวจเอาปืนจ่อหัวทำร้ายร่างกายจนสลบ แต่ น.ส.เอ ก็กลับมาหาทุกครั้งเพราะห่วงลูก ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.เอ โพสต์ขายเสื้อผ้าออนไลน์ผ่านเพจในเฟซบุ๊ก พูดคุยกับญาติด้วยน้ำเสียงปกติ บอกว่า วันหยุดจะพาลูกสาวไปเที่ยว
ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.เอ กล่าวอีกว่า น.ส.เอ ถนัดมือขวา สันนิษฐานว่า ไม่น่าจะใช้มือซ้ายยิงตัวตาย ญาติจึงติดใจการเสียชีวิตเพราะตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจที่เกิดเหตุแล้ว เรียกอาสามูลนิธิมาเก็บศพภายหลังโดยใช้ผ้าห่มห่อร่างไว้ที่โซฟาและเคลื่อนย้ายศพมาที่ สน.ลาดพร้าว ทันที
เบื้องต้น ร.ต.อ.ที่อยู่กับ น.ส.เอ ให้การว่า นอนอยู่ที่บ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เมื่อตื่นลุกขึ้นมาเจอ น.ส.เอ ใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุทันที จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว นำเครื่องวัดแอลกอฮอล์มาวัด ร.ต.อ.และนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจร่างกายและนำผลไปประกอบสำนวนคดี พร้อมนำศพไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป โดยปืนที่ใช้เป็นปืนของ ร.ต.อ.รายนี้
ด้าน พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ส่วนการสอบปากคำ ร.ต.อ.ผู้ต้องสงสัยนายนี้ ยังไม่แล้วเสร็จ เบื้องต้นให้การยืนยันว่า แฟนสาวเป็นคนฆ่าตัวตายจริง จึงส่งตัวไปตรวจหาร่องรอยการต่อสู้ คราบเขม่าปืน สารเสพติด และแอลกอฮอล์ในร่างกายที่ รพ.ตำรวจ ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นจากนี้จะต้องนำไปผ่าพิสูจน์หาวิถีกระสุนอีกครั้ง โดยผลอย่างเป็นทางการจะออกมาภายใน 30-45 วัน ยืนยันว่า ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะเป็นเครื่องยืนยันความจริงทั้งหมด ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตอย่าเป็นกังวล
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุม รอบคอบ นำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญมาประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้คงต้องรอรายงานผลตรวจจากเเพทย์ การตรวจคราบเขม่าดินปืน และพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องมาประกอบ รวมถึงหาสาเหตุเเรงจูงใจ ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงทางคดี เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยต่างๆ ที่ญาติผู้เสียชีวิตติดใจ ส่วนกรณีที่มีการคาดเดาคดีไปต่างๆ อยากให้รอฟังข้อมูลจากทางราชการเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป ยืนยันให้ความเป็นธรรมทำกับทุกฝ่าย
เปิดประวัติ “บรรยิน” อดีตรมช.สู่ ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า