แผนแหกคุกของ "บรรยิน" ราวกับหนังฮอลลีวูด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ที่ชุดหนุมาน กองปราบต้องเข้ามาคุมเข้มในขบวนรถนำตัวพ.ต.ท.บรรยิน ไปศาลครั้งนี้ ก็เนื่องมาจากว่า พ.ต.ท.บรรยิน มีแผนทจะที่จะแหกคุก แต่แผนนี้ถูกเปิดโปงเสียก่อน แผนของนายบรรยิน ที่มีตั้งแต่ การให้ทนายความไปประกันตัวนักโทษคนสนิทเพื่อให้ไปทำภารกิจลับติดต่ออดีตนักการเมืองช่วยเหลือ การวางแผนชิงตัวประกัน วางแผนอุ้มภรรยา ผบ.เรือนจำฯเพื่อหวังต่อรองปล่อยตัว วางแผนระเบิดเรือนจำบ้าง ส่ง ฮ.โรยตัวมารับบ้าง ทั้งหมดนี้ ดูไปแล้วอาจจะเหมือนกับหนังฮอลลีวูด แต่ในมุมของนักอาชญวิทยามองว่า มันมีความเป็นไปได้

'กองปราบ' เตรียมเรียก อดีตส.ส.ลูกน้องบรรยิน - ทนายความ สอบแผนแหกคุก

เบื้องหลัง! แผนโหด "บรรยิน" แหกคุก ราชทัณฑ์ ยืนยันข่าว รู้แผน มีเบาะแส ควบคุมแล้ว

การวางแผนแหกคุกหลบหนีของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช. พาณิชย์ ถูกเปิดโปงหลังจากที่สืบทราบเบาะแสจากนักโทษว่า พ.ต.ท.บรรยิน เตรียมที่จะวางแผนหลบหนีออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 

ระหว่างการเบิกตัวไปฟังการพิจารณาคดีที่ศาล  โดยวางเเผนให้ทนายความไปยื่นประกันตัวผู้ต้องขัง 2 ราย คือ นายสุธน หรือโจ ทองศิริ อายุ 42 ปี  เพื่อให้ไปดำเนินการตามแผน และนายณัฐพล หรือท๊อป นรการ อายุ 30 ปี เพื่อทำหน้าที่ติดต่อประสานงานนอกคุก

จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องขังได้ไปประสานขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.เขต 4 จังหวัดนครสวรรค์  ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองคนสนิท แต่เจ้าตัวได้ปฏิเสธช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน  ชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปรามจึงแกะรอยหาเบาะแสกระทั่งตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ที่ย่านรามคำแห่ง  สุดท้ายแผนการแหกคุกถูกเปิดโปงทั้งหมด ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ตามแผนการที่วางไว้ พ.ต.ท.บรรยิน ได้วางแผนไว้หลายขั้นตอน นอกจากการชิงตัวประกันแล้ว  ยังมีแผนการวางระเบิดเรือนจำ จากนั้นจะล้มเสาธงชาติกลางลานสนามหญ้าเพื่อใช้ปีนหนี เมื่อออกมาได้จะมีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวอีกที ขณะเดียวกันเมื่อแผนการถูกเปิดโปง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัว พ.ต.ท.บรรยิน ย้ายไปคุมขังที่เรือนจำบางขวาง  จนทำให้เกิดอาการเครียดอย่างหนัก จนถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายเมื่อช่วงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข้าไปพบเสียก่อนจึงสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน

ด้านชุดสืบสวนกองปราบฯ ยืนยันว่า แผนการแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นเรื่องจริง ขณะนี้ชุดทำงานกองปราบฯอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาว่าคำให้การของนายโจ เป็นจริงมากน้อยเพียงใดซึ่งหากพบว่าเป็นจริงก็จะต้องนำมาพิจารณาข้อกฎหมายว่า จะสามารถแจ้งข้อหาใดเพิ่มกับใครได้บ้าง นอกจากนี้จะทำการสืบสวนเชิงลึกว่ามีผู้ร่วมขบวนการคนอื่นอีกหรือไม่  แต่เท่าที่ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องหาแค่ 2 คนนี้เท่านั้น

เบื้องต้นพบว่า เข้าข่ายความผิดอาญา 2 ข้อหา คือ 1.กระทำให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล หลุดพ้นจากการคุมขังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.เป็นผู้ใช้จ้างวาน  ต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของความผิดที่เกิดขึ้น  ซึ่งทางตำรวจกองปราบฯจะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นกับแผนการชิงตัวนักโทษด้วยหรือไม่ต่อไป

สำหรับ พ.ต.ท.บรรยิน ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสำคัญหลายคดี เช่น คดีปลอมเอกสารโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์  มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก พ.ต.ท.บรรยิน เป็นเวลา 8 ปี

คดีที่ครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ ยื่นฟ้องในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณีการเสียชีวิตของเสี่ยชูวงษ์และคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ อดีตเจ้าของสำนวนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ ซึ่งศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันนี้

ในมุมมองของนักวิชาการด้านอาชญวิทยา มองว่าแผนแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน มีความเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเรือนจำมีมาตรการคุมเข้ม รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ จะสะท้อนความคิดของผู้ก่อเหตุ มีลักษณะแบบไหน

รศ.พ.ต.ท.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานคณะกรรมการหลักสูตรอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม  มหาวิทยาลัยรังสิต อธิบายว่า กรณีที่เกิดขึ้นต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนข้อมูลเบาะแสการข่าว และส่วนที่สองคือข้อมูลในการดำเนินคดี

ส่วนแรกที่เป็นเบาะแสการข่าวเจ้าหน้าที่คงตรวจสอบแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด โดยหลักการ การเคลื่อนย้ายคนจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่งจะมีช่องโหว่เสมอ เพียงแต่ว่ามีมาตรการควบคุม ป้องกันรัดกุมเพียงใด ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีมาตรการคุมเข้มพอสมควรแล้ว

การวางแผนเตรียมการไว้หลายแผนนั้น ตัวผู้กระทำผิดเกี่ยวข้องกับคดีหลายคดีไม่ว่าจะเป็นคดีนายชูวงษ์   คดีโอนหุ้น และคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา มาถึงคดีนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่า พ.ต.ท.บรรยินเคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้นแผนการที่เขาคิดว่าจะก่อเหตุก็มีความเป็นไปได้  เพียงแต่ว่ารูปแบบ วิธีการ สถานการณ์ แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้แผนการที่กล่าวอ้างมานั้นก็ไม่ได้ทำง่าย ๆ เพราะเรือนจำมีมาตรการคุมเข้มตรวจสอบ ป้องกัน เฝ้าระวังอยู่

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ในมุมอาชญวิทย การกระทำความผิดจะเป็นลักษณะเฉาะตัว สะท้อนความคิดของผู้ก่อเหตุ มีลักษณะแบบไหน จะใช้การกระทำแบบนั้น  ซึ่งผู้ก่อเหตุเคยเป็นทั้งตำรวจ และอดีตนักการเมือง ซึ่งอาจจะสะท้อนการใช้อำนาจนิยม

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ