กระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ของซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า การแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีจะจำกัดจำนวนผู้แสวงบุญทุกเชื้อชาติ อนุญาตเฉพาะชาวมุสลิมที่พำนักอยู่ในประเทศแล้วเท่านั้น
อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 23 มิ.ย. 63
อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 23 มิ.ย. 63
แถลงการณ์จากกระทรวงระบุว่า เนื่องจากโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลก และความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโคโรนามีสูงในพื้นที่แออัดและจากประเทศอื่น ๆ จึงต้องมีข้อจำกัดดังกล่าว
“การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจว่าพิธีฮัจญ์จะเป็นไปอย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็มีมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องพี่น้องชาวมุสลิม และเป็นการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัดในเรื่องของการรักษาสุขอนามัยและความปลอดภัยของเรา”
กระทรวงกล่าวว่า เป็นเรื่องท้าทาย ที่จะรักษาระยะห่างที่เหมาะสมในพื้นที่แออัดและป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19
คำแถลงของกระทรวงฮัจญ์กล่าวว่า “ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งให้ความสำคัญสูงสุดในการดูแลให้ชาวมุสลิมสามารถประกอบพิธีฮัจญ์ หรืออุมเราะห์อย่างปลอดภัย และได้ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดเพื่อปกป้องผู้แสวงบุญจากโควิด-19”
ปัจจุบัน ซาอุดิอาระเบียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 160,000 ราย และผู้เสียชีวิต 1,307 ราย
เมื่อปีที่แล้ว มีชาวมุสลิมมากกว่า 2 ล้านคนเดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ และมีผู้แสวงบุญจากต่างประเทศกว่า 1.8 ล้านคนเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อเข้าร่วมพิธี
เมื่อเดือนเมษายน ซาอุดิอาระเบียแนะนำให้ชาวมุสลิมระงับแผนการแสวงบุญไว้ก่อน ขณะที่อินโดนีเซีย ซึ่งมีแผนจะส่งผู้แสวงบุญกว่า 221,000 คนไปยังนครเมกกะในปีนี้ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า จะไม่ส่งใครมาร่วมประกอบพิธีฮัจญ์เนื่องจากความกังวลเรื่องไวรัสโควิด-19
เมื่อ "การรวมกลุ่มทางศาสนา" อาจทำให้โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
ชาวมุสลิมทั่วโลกฉลองวันตรุษอีดิลฟิตรีท่ามกลางวิกฤตโควิด-19
ซาอุฯ ระงับออกวีซ่าผู้แสวงบุญประกอบพิธีศาสนาคุมโควิด-19
เรียบเรียงจาก CNN