อีอีซี-บีบีเอส ลงนามร่วมลงทุน ลุยพัฒนา “อู่ตะเภา-เมืองการบินภาคตะวันออก”
บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ได้จัดการแถลงข่าวความพร้อมในการลงทุนพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก นำโดย นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ปรึกษาประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
โดยนพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ปรึกษาประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พื้นที่ของโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ถือว่าอยู่ในจุดที่มีศักยภาพสูง ได้เปรียบทั้งสถานที่ ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งนอกจากเป้าหมายที่ต้องการให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 แล้ว ยังจะเป็นศูนย์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการบินของอีอีซี และเป็นศูนย์กลางของเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเชื่อว่าประสบการณ์ของพันธมิตรทั้งหมด หากทำได้ถูกต้อง ก็เชื่อว่าไม่ยาก หากเทียบกับในอดีตที่เคยพัฒนาสนามบินเอกชนรายแรก หรือกรณีการทำสายการบิน ที่มีข้อจำกัดจำนวนมาก
ขณะที่นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า การเสนอผลตอบแทนกว่า 3 แสนล้านบาท ให้แก่รัฐบาลเป็นราคาที่ถูกต้อง ผ่านการคิดอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ยืนยันการลงทุนมีความคุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งทางพันธมิตรมีความพร้อมในการเดินหน้าลงทุน ทั้งด้านบุคลากร ด้านการเงิน ที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จได้ พร้อมประเมินว่าจากระยะเวลาในการดำเนินการ 50 ปี คาดจะได้ผลตอบแทน 1.3 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน เชื่อว่าสภาวะแวดล้อมโดยรวมของเศรษฐกิจจะค่อยๆกลับมา ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น ส่วนจะให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะที่เคยเป็น ก็ต้องพึ่งการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เบื้องต้นประเมินว่าอาจใช้ระยะเวลาถึงสิ้นปี 2563 สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น ด้านต่างประเทศคาดว่าจะใช้เวลาถึงช่วงกลางปีหน้านักท่องเที่ยวจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมย้ำอย่างหนักแน่นว่า จะไม่กระทบกับการลงทุนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เนื่องจากยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการก่อสร้าง
ทั้งนี้ เป้าหมายการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ถูกวางไว้ให้เกิดเป็นเมืองการบิน และเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 บนเนื้อที่กว่า 6,500 ไร่ ประกอบด้วยเมืองการบิน Airport City พื้นที่เชิงพาณิชย์ อาคารผู้โดยสาร ศูนย์การขนส่งภาคพื้นดิน อาคารคลังสินค้า พื้นที่การค้าเสรี ศูนย์ซ่อมเครื่องบิน ทางวิ่งเครื่องบิน 2 ทางวิ่ง และช่องจอดเครื่องบิน 102 ช่องจอด เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นจุดเชื่อมโยงการเดินทาง การขนส่งในประเทศและภูมิภาค กระจายความเจริญด้านต่างๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่จะรองรับผู้โดยสารได้สูงถึง 60 ล้านคน
“นพ.ปราเสริฐ” มั่นใจศักยภาพ “อู่ตะเภา – เมืองการบิน”
