“ประวิตร” โยน “ฌอน” แจงปมรับบริจาค ย้ำ “ไม่รู้จักมาก่อน"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แม้ว่าจะมีภาพของนายฌอน บูรณะหิรัญ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ร่วมปลูกป่ากับ พล.อ.ประวิตร ในคลิปที่เป็นปัญหา แต่ พล.อ.ประวิตร ก็ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จัก และเห็นหน้านายฌอนมาก่อน พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งบฯ ทำประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์

ลือ "นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" ดีล "ฌอน บูรณะหิรัญ" จัดอีเวนต์ ทำคลิปชม "บิ๊กป้อม"

ไล่ไปถาม “ฌอน " เอง “บิ๊กป้อม” ไม่เกี่ยวจ้าง 3 แสน พีอาร์ปลูกป่า ย้ำ “ไม่รู้จัก”

พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธย้ำว่า “ไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้า” นายณอน มาก่อน หลังถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการจ้างนายฌอน ด้วยเงิน 3 แสนบาทเพื่อทำประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ โดย พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธความเกี่ยวข้องทุกกรณี ว่าให้ไปถามนายณอนเอง รวมถึงมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจ้างมาทำการประชาสัมพันธ์โครงการปลูกป่าของรัฐบาลมาทำเรื่องส่วนตัว และงานที่ไปก็เป็นโครงการปลูกป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ยืนยันว่า ไม่พบการจ้างประชาสัมพันธ์ตามที่เป็นข่าว

“บิ๊กป้อม” ไม่รู้ ทัวร์ลง “ฌอน บูรณะหิรัญ” บอกชมใจดีเป็นเรื่องส่วนบุคคล

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่ามีการจ้างหรือไม่ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ผู้จัดงานเชิญดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียงมาร่วม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจ แต่ส่วนตัวยืนยันไม่รู้จัก นายฌอนเป็นการส่วนตัว ส่วนเรื่องการบริจาคเงินช่วยเหลือดับไฟป่า ก็ยังไม่ทราบ และไม่เคยเปิดรับ เพราะมีงบประมาณ รวมถึงอุปกรณ์ที่เพียงพอ และพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จึงเพิ่งจะรู้ว่านายฌอนเป็นใคร

หนึ่งในเรื่องที่คนให้ความสนใจ ประเด็นการรับบริจาคของนายฌอน คือ การ ตั้งคำถามว่า นายฌอนเปิดรับเงินบริจาคเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว นั้นจะต้องเสียภาษีหรือไม่  ล่าสุด ทีมข่าวติดต่อไปยังนายถนอม เกตเอม ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เจ้าของเพจ “แท็ก บักหนอม” ให้ข้อมูลว่า การเปิดบัญชีส่วนตัวรับบริจาคสามารถทำได้ แต่ผู้รับบริจาคจะต้องทำบัญชีให้ชัดเจนว่าเงินเข้าเท่าไหร่ และ เงินออกก็ต้องออกไปเท่ากัน เพราะ รูปแบบนี้ เจ้าของบัญชีจะทำหน้าที่คล้ายเป็นตัวแทนรับเงิน ซึ่งจะไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องมีเอกสารหลักฐานชัดเจน  ซึ่งในกรณีของนายฌอน ควรต้องแจกแจงให้ชัดเจนว่า อันไหนเงินส่วนตัว และ อันไหนเงินบริจาค

ส่วนกรณีที่นายฌอน เบิกจ่ายเงินในนามบริษัท ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าจงใจจะข้อมูลไปใช้ลดหย่อนภาษีหรือไม่  นายถนอม มองว่า มีโอกาสเป็นไปได้ เฉพาะ ในบริษัทที่มีกำไร

ขณะที่ บริษัทของนายฌอน บนเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ปี 2561 บริษัทขาดทุน นั่นหมายความว่า หากปีนี้ผลประกอบการยังติดลบเหมือนเดิม การเบิกจ่ายในนามบริษัท ก็อาจไม่เป็นผลเรื่องการลดหย่อนภาษี เพราะ ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การเบิกจ่ายลักษณะนี้จะไม่เป็นประโยชน์ใดใด เพราะ ก็มีคนในโลกออนไลน์ สงสัยว่า อาจเป็นความพยายามนำเรื่องการเบิกจ่ายเงินบริจาคไปเป็นรายจ่ายของบริษัทหรือไม่  นายถนอม บอกว่า ประเด็นนี้สามารถทำได้ แต่บริษัทก็ต้องตอบที่มาที่ไปของเงินให้ได้ด้วยว่ามาจากไหน หากชี้แจงไม่ได้ก็อาจจะแปลว่าทำบัญชีเท็จ

ส่วนความเคลื่อนไหว ที่จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปรากฏในภาพ ว่า นายฌอนเข้าไปนั่งพูดคุยด้วย ยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่การหารือเรื่องเงินบริจาคไฟป่า แต่เป็นเรื่องกิจกรรมจิตอาสาของคนรุ่นใหม่

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ยังบอกอีกว่า ล่าสุดนายฌอน ติดต่อมาว่าพร้อมที่จะเข้าพบนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงเรื่องการเปิดรับบริจาคช่วยเหลือไฟป่าแล้ว แต่ยังไม่ระบุวันเวลา พร้อมบอกว่าตัวเองไม่รู้ถึงประเพณีและขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีการเปิดรับบริจาคช่วยเหลือ เนื่องจากเพิ่งมาอยู่ประเทศไทยได้ไม่นาน และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบบุคคลสาธารณะและกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่เปิดรับบริจาคในลักษณะเดียวกันด้วย

ส่วนการดำเนินคดี ถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่มีอำนาจเข้าไปสอบสวน เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ขณะที่สภาลมหายใจเชียงใหม่ ที่กำกับดูแลเรื่องไฟป่าและปัญญามลพิษฝุ่น PM 2.5 ก็ระบุว่าไม่เคยได้รับการติดต่อจากฌอนเรื่องเงินบริจาค ดังนั้นจึงเตรียมแถลงข่าวเร็วๆนี้

ขณะที่ นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า "ฌอน" ไม่ได้มีการยื่นขออนุญาตเรี่ยไรหรือเปิดรับบริจาคในพื้นที่ และ ไม่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการร่วมกับทางอำเภอหรือส่วนราชการ นอกจากนี้ยังไม่เคยได้รับการประสานนำเงินบริจาคหรือสิ่งของบริจาคมามอบให้กับทางอำเภอเพื่อนำไปสนับสนุนการทำงานด้วย ส่วนจะมีการนำไปมอบกันเองหรือนั้น ไม่สามารถให้คำตอบแทนได้

ด้านร้านประดิษฐ์ ในตลาดวโรรส เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านที่ "ฌอน" นำใบเสร็จซื้อเจลล้างมือเป็นเงิน 6,750 บาท ลงวันที่ 24 เม.ย.63 โพสต์ประกอบการชี้แจงเรื่องเงินบริจาค ทั้งที่ช่วงดังกล่าว ตรงกับช่วงที่ตลาดวโรรสปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 นั้น จากการสอบถาม ทางร้าน ยอมรับว่า ได้ขายเจลล้างมือ และออกบิลเงินสดดังกล่าวจริง แต่ยืนยันว่าไม่รู้จักกับ "นายฌอน" เป็นการส่วนตัว และไม่ได้มีการติดต่อซื้อขายกันโดยตรง เพราะเป็นการซื้อผ่านคนกลางที่มาติดต่อซื้อกับทางร้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะหน้าร้านปิด ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้ติดใจใดๆที่มีการนำใบเสร็จของร้านไปเผยแพร่

ขณะที่ ล่าสุด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า หากสามารถพิสูจน์ได้ว่า นายฌอน เจตนาหลอกคนให้โอนเงินแล้วเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเอง นอกจากเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยังอาจเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์ด้วย ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายษิทรา แนะนำว่า อาจเริ่มดูจากการที่นายฌอน บอกว่า มีคนโอนเงินไปให้ประมาณ 8 แสนบาท หากพบว่า มีเงินโอนเข้าไปมากกว่านั้นจะเท่ากับว่ามีเจตนาทุจริตปิดบังยอดเงิน

นอกจากนี้ยังย้ำว่า ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ไม่จำเป็นต้องให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ เนื่องจาก ฐานความผิดนี้เป็นาญาแผ่นดิน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ