หมอจุฬาฯ ประสานเสียง อย่าเพิ่งตื่น "ไข้หวัดหมู" ยังไม่พบการแพร่ระบาดในคน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หมอยง - หมอธีระ ประสานเสียง อย่าเพิ่งตื่นไข้หวัดหมู พบติดในหมู ยังไม่ระบาดจากคนสู่คน โรคนี้ยังไม่เกิด ลุ้นวัคซีนรองรับ

กรณี "ไวรัสไข้หวัดหมู" ที่กำลังพูดถึงกันในวงกว้าง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณีมหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า  ไข้หวัดใหญ่หมู สายพันธุ์ใหม่ที่เป็นข่าว G4EAH1N1 เป็นข่าวที่ตื่นตระหนก ในความจริงที่ยังไม่เกิด

พบ “ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่” ในจีน

"ขออธิบายให้เข้าใจ เป็นสเต็ป อาจจะเข้าใจยากเสียหน่อย หมูเป็นสัตว์ที่พบไข้หวัดใหญ่อยู่แล้ว และมักจะไม่มีอาการหมู จะเป็นตัวกลางที่ผสมให้เกิดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และเข้าสู่มนุษย์ได้เมื่อเข้าสู่มนุษย์ ถ้าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ทุกคนยังไม่เคยเป็นไม่มีภูมิต้านทานก็จะระบาดใหญ่ทั่วโลกได้

ไข้หวัดใหญ่ G4EAH1N1 เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่พบในหมูประเทศจีน ชิ้นส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดใหญ่จะมีทั้งหมด 8 ชิ้น จึงมีการแลกเปลี่ยนกันได้ G4 คือ genotype ที่ 4 EA คือ Eurasian avian และ H1N1 จึงเรียกเป็น G4EAH1N1 เป็นการผสมผสานของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหมูในนกและในคน เข้าเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ คล้ายกับครั้งหนึ่งที่เคยมีจุดเริ่มต้นที่เม็กซิโก แล้วระบาดใหญ่ทั่วโลกเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่เกิด เป็นเพียงการศึกษาไข้หวัดใหญ่ในหมู ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2018

ไข้หวัดใหญ่ในหมูมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา จากเดิมในอดีตไข้หวัดใหญ่ในหมู จะเป็นสายพันธุ์เดิม classical swine ต่อมามีการผสมผสาน เอาชิ้นส่วนของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ Euratian avian-like ซึ่งพบได้ตั้งแต่ก่อน 2010 เป็นสายพันธุ์ G1 หลังเกิดการระบาดด้วยไข้หวัดใหญ่ ทั่วโลก ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 2009 ชิ้นส่วนพันธุกรรมของ H1N1 2009 จึงเข้าไปผสมเป็นไส้ในของไข้หวัดหมู จึงเรียกสายพันธุ์นี้ว่า G2 ส่วน G4 มีการสอดแทรกสายพันธุ์อีก 1 ชิ้น triple-reassortant และพบมากขึ้นในช่วงระยะหลัง สายพันธุ์นี้จึงแตกต่างจาก G1 และ G2 ส่วน G 3, 5 และ 6 จะไม่ขอกล่าวในที่นี้

ทางการจีนทำการศึกษา พบว่า สายพันธุ์ลูกผสม G4 + EA (Eurasian avian-like) + Triple reassortant คือการผสมชิ้นส่วน 3 สายพันธุ์ G4EAH1N1 ภูมิต้านทานที่เกิดจากการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน ไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์ที่พบนี้ได้ การทดลองในสัตว์ พบการติดต่อได้ง่ายผ่านละอองฝอย และการสัมผัสโดยตรง สัตว์ทดลองมีอาการค่อนข้างรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นและศึกษาในเซลล์เพาะเลี้ยง ไวรัสตัวนี้เข้าติดเชื้อได้ง่ายในเซลล์เยื่อบุ

โดยสรุปก็คือว่า G4EAH1N1 สายพันธุ์นี้พบในหมูที่ประเทศจีน ในระยะหลังจนถึงปี 2018 และจากการทดลองภูมิต้านทานที่ฉีดวัคซีนประจำฤดูกาลในคน ไม่สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์นี้ได้และไวรัสสายพันธุ์นี้ยังก่อโรคในสัตว์ทดลอง มีอาการมากกว่าสายพันธุ์อื่น และสามารถติดต่อได้ทั้งสัมผัสโดยตรงและทางฝอยละออง เหตุการณ์ทั้งหมดยังอยู่ในหมู ยังไม่เคยพบติดในคน และยังไม่มีการแพร่ระบาดในคนแต่อย่างใด 

เป็นการทดลองและมีสมมติฐานด้วยเหตุผลดังกล่าวในสัตว์ทดลอง ถึงจะพบในคน การพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ก็สามารถทำได้ง่าย เป็นเพียงเปลี่ยนสายพันธุ์ให้ตรงกับสายพันธุ์ที่มีการระบาด

ข่าวที่เกิดขึ้น เป็นเพียงทางการจีนเสนอผลงานทางวิชาการ ในวารสารที่มีชื่อเสียง PNAS และเป็นงานวิจัยที่ทำมายาวนาน และศึกษาแบบลึกซึ้ง เราอยากเห็นงานวิจัยแบบนี้ในบ้านเรา แต่ต้องเป็นการลงทุนที่เป็นจำนวนมาก และหวังว่า คงจะไม่ถูกถามว่า ทำวิจัยแบบนี้แล้วเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นไหม เพราะเป็นงานวิจัยพื้นฐาน ผมเคยถูกถามมาแล้วว่าทำแล้วขายได้หรือเปล่า

“ไข้หวัดหมู” ระบาดหนักในจีน

ขณะที่รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูล ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงไข้หวัดหมู หรือที่ คุณหมอธีระ เรียกว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหมู...G4 EA H1N1 ว่า

"มีหลังไมค์มาถามเรื่องข่าวไวรัสตัวใหม่ที่เพิ่งได้รับการรายงานว่าอาจทำให้เกิดการระบาดทั่วโลกได้ในอนาคต

Sun H และคณะ ได้ตีพิมพ์งานวิจัยนี้ในวารสารทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ PNAS เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2020 นี้เอง

ค้นพบไวรัสตัวนี้ ตั้งชื่อว่า G4 virus ในหมู ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่ากลัวคือ ทดสอบในสัตว์คือตัว Ferret แล้วพบว่าทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มีอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์ไวรัสเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นไข้ ไอ คัดจมูก และมีการทำลายเซลล์ปอดด้วย

เค้าทำการทดสอบในหลอดทดลองพบว่า สามารถติดเชื้อในเซลล์เยื่อบุหลอดลมของมนุษย์ได้ด้วย

พอทำการเจาะเลือดคนงานในฟาร์มหมู 15 แห่ง จำนวน 338 คน พบว่าคนงานมีระดับภูมิต้านทานในน้ำเลือดต่อไวรัสชนิดนี้ราว 10.4% โดยในคนงานที่มีอายุ 18-35 ปี มีถึง 20.5% ที่พบระดับภูมิต้านทานในน้ำเลือด ซึ่งแปลว่าน่าจะเคยติดเชื้อไวรัสนี้มาจากหมู

นอกจากนี้ยังพบว่า ภูมิต้านทานจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่คนใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นน่าจะไม่สามารถช่วยต่อต้านไวรัสชนิดนี้ได้

อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานใดที่บ่งบอกว่าจะมีการติดเชื้อจากคนสู่คน

จากข้อมูลข้างต้น คณะวิจัยจึงเตือนให้ทั่วโลกให้เฝ้าระวังไวรัสชนิดนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่อาจทำให้เกิดการระบาดวงกว้างได้ในอนาคต

ดังนั้นเราจึงรักษาความสะอาดส่วนบุคคลเป็นประจำ ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ต้องระวังไว้เสมอ

ยุคนี้หรือยุคหน้า เราจะเจอเชื้อโรคใหม่ๆ ที่มีความรุนแรง เพราะเชื้อโรคต่างๆ ก็มีวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอด

ถ้าเราอยากอยู่รอดปลอดภัย ต้องตั้งการ์ด มีสติในการใช้ชีวิต รับฟังและขวนขวายหาความรู้ให้เกิดปัญญา

อย่าลืม...มาสู้โควิด-19 กันก่อนนะ

ใส่หน้ากากเสมอ...ล้างมือบ่อยๆ...อยู่ห่างจากคนอื่นๆ 1 เมตร...

พูดน้อยลง...พบปะคนน้อยลงสั้นลง...

เลี่ยงที่อโคจร...หมั่นสังเกตอาการตนเองและครอบครัว...

ประเทศไทยต้องทำได้ครับ...

ด้วยรักต่อทุกคน...

อ้างอิง

Sun H et al. Prevalent Eurasian avian-like H1N1 swine influenza virus with 2009 pandemic viral genes facilitating human infection. PNAS. 29 June 2020." ธีระ ระบุ

ความต่างระหว่าง “ไข้หวัดหมู”กับ“อหิวาต์แอฟริกาในสุกร”

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ