วันที่ 1 ก.ค. 2563 พนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ที่ทำงานที่ศึกษาภัณฑ์ สาขาลาดพร้าว ขอให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาก่อน ช่วยสื่อสารกับนายกรัฐมนตรีให้เยียวยาช่วยเหลือ พนักงานทั้งหมด พร้อมย้ำว่า หากต้องออกจากงานครอบครัวแต่ละคนจะลำบากมาก
“ประยุทธ์” เผย องค์การค้าของ สกสค. เลิกจ้างพนักงาน เป็นแผนปรับโครงสร้าง ก.ศึกษาธิการ
หลังจากนายจุรินทร์ เดินทางกลับ ตัวแทนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ย้ำว่าอยากให้ กระทรวงศึกษาธิการทบทวนคำสั่งเลิกจ้าง และ หามาตรการอื่นในการแก้ปัญหาหนี้สินของสกสค.แทน เนื่องจากมองว่า หนี้ทั้งหมดเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของผู้บริหารไม่ได้เกิดจากพนักงานระดับปฎิบัติการระหว่างนั้น มีพนักงานที่ถูกเลิกจ้างคนหนึ่งเป็นลมล้มลงไป
รมว.ศธ. ย้ำ เสียใจแต่จำเป็นต้องเลิกจ้างพนง.เพราะขาดทุนสูง
ขณะที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ ระหว่าง ตรวจเยี่ยมการเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนโยธินบูรณะ ว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องดำเนินการ เพราะ เป็นการตัดสินใจร่วมกันของคณะกรรมการ สกสค. ซึ่งเป็นสหกรณ์ของครู พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับผลกระทบ โควิด-19 แต่เป็นเรื่องการประเมินถึงความเหมาะสมในการทำธุรกิจ เนื่องจากเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา สกสค.ขาดทุนสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก จึงมองว่า ต้องมีผู้ที่เชี่ยวชาญมาร่วมตัดสินใจและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูโอกาสที่จะพลิกธุรกิจนี้ให้กลับขึ้นมา
ส่วนการเยียวยาผู้ถูกเลิกจ้าง นายณัฏฐพล ระบุว่า ผู้ที่ถูกเลิกจ้างทุกคนจะได้รับการชดเชยทุกขั้นตอนตามกฎหมาย ยืนยันว่า หนี้ทั้ง 6 พันล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการจะร่วมรับผิดชอบเพื่อไม่ให้เกิดเป็นหนี้เสีย
ส่วนหลังจากนี้หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น นายณัฏฐพล ระบุว่า เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล แต่ก็ไม่ได้กังวลเรื่องการต่อสู้คดี เพราะ กระทรวงศึกษาธิการมั่นใจในการตัดสินใจของคณะกรรม สกสค.
รู้จัก "องค์การค้าของ สกสค." ที่แท้คือ “ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์” ขาดทุน 15 ปี เลิกจ้าง 961 ราย