พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวปฏิวัติซ้อน โดยยืนยันว่าจะไม่มีอย่างแน่นอน ขณะนี้สถานการณ์ยังคงเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ขอให้คนที่โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียหยุดการกระทำ และฝ่ายความมั่นคงกำลังหาคนผิดมาลงโทษ เชื่อว่าคนที่กระทำมีเพียง 1 ถึง 2 คนเท่านั้น ไม่น่าจะเป็นขบวนการ
สำหรับการลงนามในคำสั่งรายชื่อนายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการ พล.อ.ประวิตร บอกว่า เป็นไปตามขั้นตอนปกติ และไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง ส่วนบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2558 จะดำเนินการในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
ส่วนกระแสการคาดการณ์ว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา และ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก จะมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกนั้น เรื่องการเสนอชื่อขึ้นอยู่กับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก แต่จะยังไม่มีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายจนกว่าจะถึงเดือนตุลาคม
ขณะที่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเช่นกันว่า จะไม่มีการปฏิวัติซ้อนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
วันเดียวกัน ได้มีการเปิดเผยคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 422/2558 เรื่อง ให้นายทหารออกจากราชการเนื่องจากครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ลงนามโดย พล.อ.ประวิตร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปรากฏว่าปีนี้มีนายทหารชั้นนายพลครบเกษียณอายุราชการจำนวน 446 คนจากทุกเหล่าทัพ โดยตำแหน่งสำคัญที่จะว่างลงมีทั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารเรือ เฉพาะในกลุ่ม 5 เสือ ทบ. หรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบกซึ่งหลายฝ่ายจับตามองเพราะคุมกำลังปฏิวัตินั้น เกษียณอายุราชการถึง 3 คน คือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก
ส่วนคู่ชิงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ คือ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา กับ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช สองผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก โดย พล.อ.ปรีชา มีภาษีกว่าตรงที่เป็นน้องชายแท้ๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ส่วน พล.อ.ธีรชัย เป็นนายทหารบูรพาพยัคฆ์ และมีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร