อนาคตของประเทศไทย ถูกตั้งเป้าเป็นครัวโลก สร้างเศรษฐกิจให้เติบโตได้ด้วยอุตสาหกรรมอาหาร-การเกษตร แต่การเดินไปตามเป้าหมายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการแข่งขันในตลาดที่สูง ทำให้สินค้าที่ออกสู่ตลาดไม่มีความสมดุล บ้างมีคุณภาพแต่ขาดเรื่องราว บ้างก็สินค้าดีมีการตลาด แต่ขาดช่องทางการขาย
เพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชนด้วยการขึ้นทะเบียน GI
โดยหนึ่งโมเดลการเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตรอันน่าสนใจ ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ใช้วิธีการผลักดันสินค้า เพื่อขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ Geographical Indication หรือ สินค้าจีไอ ซึ่งหลายจังหวัดได้เดินหน้าขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอกันไป แล้ว โดยในส่วนจังหวัดนครราชสีมา จะมีการนำเสนอเพิ่ม “น้อยหน่าปากช่อง” รสชาตหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นของดีจากชุมชน ก็นำมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง และเมื่อได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองแล้ว ก็ไม่สามารถมีที่ไหนผลิตได้เหมือนกับพื้นที่นั้นๆ ด้วยความแตกต่างทั้งดิน ฟ้า อากาศ พร้อมกับเรื่องราวเฉพาะของพื้นที่ จึงเป็นการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ พี่น้องเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนน้อยหน่าปากช่อง ได้แนะนำถึง “น้อยหน่าปากช่อง” ว่ามีอัตลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยสภาพพื้นที่เป็นดินแดง มีอากาศ เหมาะสมต่อการปลูกมากที่สุด ทำให้ผลิตน้อยหน่าได้มีคุณภาพสูง เช่น สายพันธุ์น้อยหน่าลูกผสม มีลักษณะผลใหญ่ รูปหัวใจ ผิวค่อนข้างเรียบ ร่องตาตื้น เปลือกบางลอกจากเนื้อได้ง่าย เนื้อเหนียว กลิ่นหอม รสชาติหวานอร่อย
ซึ่งวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ ก็เชื่อมั่นว่า การได้รับขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอ จะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับสูงขึ้น กลับมาหล่อเลี้ยงความเป็นอยู่ในชุมชนได้อย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้ดำเนินการส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับสินค้าจีไอ ทั้งการจำหน่ายภายในประเทศ และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
ฉะนั้น เมื่อสินค้าที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีการใส่เรื่องราวกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน ผสมผสานกับช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ก็อาจเป็นทางรอดสำคัญ ที่จะยกระดับเกษตรกรไทยไปสู่ครัวโลกได้อย่างยั่งยืน
ก.พาณิชย์ รุกตลาด “สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” ทั่วประเทศ