อินเดียสั่งแบนแอปฯ TikTok หลังความตึงเครียดกับจีนบานปลาย
นับเป็นมหาอำนาจประเทศที่ 2 แล้วที่ต่อต้านแอพพลิเคชั่นวัยรุ่นอย่าง Tiktok ไมค์ ปอมปิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐฯ กำลังพิจารณาการแบนแอพพลิเคชั่น TikTok แอพพลิเคชั่นของจีนที่กำลังได้รับความนิยม
โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ อย่าง Fox News ว่า เขาจริงจังกับเรื่องนี้ เนื่องจากมองว่า ข้อมูลของผู้ใช้ Tiktok อาจรั่วไหลไปยังรัฐบาลจีนได้ เขายังให้ความเห็นอีกว่า หากคุณอยากให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณอยู่ในมือรัฐบาลจีน คุณก็ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ได้เลย
ท่าทีนี้ของปอมปิโอเกิดขึ้นหลังจากความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับจีนตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ตั้งแต่สงครามการค้า การแข่งขันกันด้านเทคโนโลยีระดับสูง จนถึงการรุกคืบของจีนในพื้นที่ต่างๆ ทั้งฮ่องกง ไต้หวัน จนถึงดินแดนพิพาททะเลจีนใต้
แม้ว่าแอพพลิเคชั่น TikTok จะเป็นของบริษัทสตาร์ทอัพจีน แต่ Tiktok มี CEO เป็นชาวอเมริกัน เพราะแอพพลิเคชั่น Tiktok แม้จะเป็นของบริษัทจีน แต่มันก็ถูกจีนสั่งแบน ห้ามใช้งานภายในประเทศ
Kevin Mayer เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง CEO ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Walt Disney
เขาเข้ามารับตำแหน่งนี้ในช่วงเวลาที่แอพพลิเคชั่น TikTok กำลังได้รับความนิยมสูงสุดไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการระบาดของโควิด-19 ด้วย ที่ทำให้คนต้องกักตัวอยู่บ้าน จนแก้เบื่อด้วยการเล่นแอพพลิเคชั่น TikTok เนื่องจากแอพพลิเคชั่นนี้มีจุดเด่นด้านการให้ผู้ใช้อัดคลิปวีดีโอตัวเองสั้นๆ ที่มีลูกเล่นหลายอย่าง ตั้งแต่การเลียนเสียงคนดัง การเต้น จนถึงการร้องเพลง
สหรัฐฯ มีผู้ใช้ Tiktok มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถึงเกือบ 40 ล้านคน อันดับหนึ่งคือ อินเดียที่มีผู้ใช้ Tiktok เกือบ 120 ล้านคน
ซึ่ง Tiktok ได้ออกมาชี้แจงกรณีรัฐบาลสหรัฐจะแบน TikTok ว่าไม่เคยส่งข้อมูลผู้ใช้ไปให้จีน และถึงรัฐบาลจีนขอมา ก็จะไม่ส่งข้อมูลให้
มีการอธิบายด้วยว่า ศูนย์เก็บข้อมูลผู้ใช้ Application นี้ตั้งอยู่นอกประเทศจีน และไม่มีข้อมูลชุดไหนที่ถูกควบคุมด้วยกฎหมายของจีน
ความนิยมของ Tiktok ที่แพร่หลายในสหรัฐฯ ทำให้หลายหน่วยงานของรัฐบาลในสหรัฐฯ ไม่ไว้วางใจแอพพลิเคชั่นนี้ หน่วยงานทหารสหรัฐฯ ออกกฎห้ามเจ้าหน้าที่ดาวน์โหลดและใช้แอพพลิเคชั่นนี้ เนื่องจากกลัวว่าข้อมูลความมั่นคงจะรั่วไหล ต้องดูว่าหากสหรัฐแบน TikTok จริงจะมีปฏิกริยาจากผู้ใช้ในอเมริกาอย่างไร
ที่ผ่านมาแอพพลิเคชั่น Tiktok ที่ใช้การสื่อสารที่แปลกใหม่ สนุกสนานอย่างการเลียนแบบเสียงหรือท่าเต้น ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และดูเหมือนว่าจะทรงอิทธิพลพอสมควร
อย่างเช่นตอนที่ทรัมป์ไปหาเสียงที่เมืองทัลซาของเท็กซัส การหาเสียงครั้งแรหหลังการระบาดของโควิดทรัมป์คาดหวังสูงว่าจะมีคนมาเยอะเพราะคนลงทะเบียนเป็นล้าน แต่พอถึงเวลามาไม่กี่พันคนเพราะคนที่ใช้ TikTok ระดมกันเข้าไปงทะเบียนปลอมๆหลอกทรัมป์ ถือว่าเป็นการเสียท่าของทรัมป์ให้กับวัยรุ่นอเมริกันอย่างไม่มีใครคาดคิด
นอกเหนือจากสหรัฐที่กำลังจะแบน TikTok ที่แบนไปก่อนหน้านั้นแล้วคือ อินเดีย
อินเดียซึ่งเป็นผู้ใช้ TikTok รายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศแบน Application นี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังการปะทะกันระหว่างทหารจีนกับอินเดียที่ชายแดนเทือกเขาหิมาลัย การแบนครั้งนี้อินเดียให้เหตุผลว่า กลัวจีนจะล้วงข้อมูลของผู้ใช้
2 มหาอำนาจที่ต่างพากันแบนแอพวัยรุ่นอย่าง Tiktok สะท้อนอิทธิพลของการสื่อสารในยุคใหม่ ที่เป็นได้ทั้งเครื่องมันอันทรงพลัง และขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลได้เช่นกัน
“TikTok” บริจาคกว่า 8 พันล้านบาท หนุนสู้โควิด-19
