รองโฆษก ตร. เผยสอบปากคำคดีน้องชมพู่กว่า 900 คน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ หลังหายตัวไป 4 วัน ก่อนที่พบศพบนกลางภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักราว 2 กิโลเมตร ล่าสุดรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าขณะนี้สอบปากคำไปแล้ว 900 กว่าปาก รออีก 1-2 วันนี้จะได้รับรายงานผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากอีกหลายสถาบัน ให้พนักงานสอบสวนจะนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน

พยานชี้จุดพบ“รถแบ็กโฮของเล่น”น้องชมพู่ ไม่ตรงกัน

พยาน เผย รถแบ๊กโฮของเล่นน้องชมพู่ถูกเคลื่อนย้ายไว้ใกล้ศพ

พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ว่า แม้ว่าระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว  ตำรวจยังไม่สามารถสรุปคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ แต่ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวน สอบสวน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง  ได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างเต็มที่ ขณะนี้มีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 900  ปาก ทั้งคนในพื้นที่หมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงพยานในส่วนต่าง ๆ ที่มีส่วนสำคัญกับคดีนี้   และอีก 1-2 วันนี้จะได้รับรายงานผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากอีกหลายสถาบัน  ที่เก็บจากการสอบสวน ทั้งคนใกล้ชิด และชาวบ้าน นับว่าเป็นรายงานที่มีส่วนสำคัญที่พนักงานสอบสวนจะนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน

ส่วนประเด็นคำถามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงใช้ระยะเวลานานในการสืบสวน สอบสวนในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่  พ.ต.อ.กฤษณะ ให้ข้อมูลว่า ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนและยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องน้องชมพู่เดินไปเสียชีวิตเองหรือมีคนพาไปน้องชมพู่ขึ้นไปจนเสียชีวิต ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมีกรอบและมีระเบียบโดยเฉพาะการขออนุมัติศาลในการออกหมายจับผู้ต้องหา จึงอยากมั่นใจว่าออกหมายจับไม่ผิดตัว ไม่ใช่การเร่งดำเนินคดีและจับผู้ต้องหาผิดตัว

ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอ บนร่างน้องชมพู่ ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนและเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการรวบรวมหลักฐานมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะทำให้เสียรูปคดี  ขณะเดียวกันการดำเนินการของฝ่ายสืบสวนถ้ามีหลักฐานที่เชื่อมโยงและเพียงพอที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับได้จะดำเนินการต่อไป ซึ่งต้องรอผลตรวจสอบจากหลายส่วนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น

พ่อแม่"น้องชมพู่"ไม่เชื่อปมขัดแย้งส่วนตัวเป็นเหตุฆ่าเด็ก

ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัย สำหรับกรณี น้องสะดิ้ง อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ "น้องชมพู่" ในช่วงแรกที่น้องชมพู่หายตัวไป  มีข้อมูลว่า พี่สาวอยู่กับน้องชมพู่เป็นคนสุดท้าย  แต่นอนหลับ จึงไม่เห็นว่าน้องหายไป

จับชายบ้านกกตูม อนาจารด.ญ.อีกรายจนบาดเจ็บ ยังไม่พบหลักฐาน ทำร้าย 'น้องชมพู่'

ล่าสุด นางสาวิตรี  วงศ์ศรีชา  มารดาน้องชมพู่ ยอมรับว่าช่วงที่น้องชมพู่หายตัวไป นั้น  "น้องสะดิ้ง" ไม่ได้นอนหลับ แต่ที่ให้ลูกสาวโกหกในตอนแรก เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย หากคนร้ายรู้ว่าลูกไม่ได้หลับอาจจะเป็นอันตราย  พร้อมทั้งยืนยันว่าที่ผ่านมาน้องสะดิ้งรักน้องดูแลน้องดีมาก

ด้านความคืบหน้าคดี ช่วงบ่ายวันนี้ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร จะแจกเอกสารความคืบหน้าคดีให้กับสื่อมวลชน คาดว่าจะเป็นการชี้แจงการปฎิบัติงานของตำรวจตลอด 60 วันที่ผ่านมา.

ขณะที่ ตำรวจชุดคลี่คลายคดีนี้  เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า หลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่ง ที่มีน้ำหนักและทำให้ตำรวจรู้ตัวผู้ต้องสงสัยที่รู้เห็นและเกี่ยวโยงการเสียชีวิตของน้องชมพู่แล้ว คือ ผลตรวจ ดีเอ็นเอ บนร่างกายของน้องชมพู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของคนในหมู่บ้าน  คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่ค้นหาและพบศพน้องชมพู่ รวมถึงกลุ่มกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ให้ความสำคัญไปตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ทราบผลอย่างเป็นทางการแล้ว โดยพบดีเอ็นเอผู้ต้องสังสัยบนศพน้องชมพู่ แต่ยังขอสงวนเป็นความลับไว้ในสำนวนคดีว่า เป็นใคร    ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจกำลังรอผลสรุปทางนิติวิทยาศาตร์อย่างเป็นทางการ  รวมถึง ข้อมูลสำคัญอีกบางส่วน ก็จะสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวไปถึงตัวคนที่เกี่ยวข้องได้ เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าตำรวจไม่มีความคืบหน้าในการทำงานเรื่องนี้ จึงไม่เป็นความจริง  

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ