เปิดจุดแตกต่าง ผลชันสูตร 'น้องชมพู่' รพ.สรรพสิทธิฯ -นิติเวชตำรวจ เผยปมคดีจบไม่ลง!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




2 เดือน คดีน้องชมพู่ แพทย์นิติเวช 2 สถาบันฯ ชันสูตร พบความแตกต่างที่ยังอยู่ระหว่างหาบทสรุปที่ชัด ขณะที่หลักฐานในที่เกิดเหตุเป็นปมสำคัญที่ทำให้คดีนี้ยังเป็นปริศนา

การเสียชีวิต ของ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกอก ตำบลกกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร  ผ่านมา 2 เดือนแล้ว  ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน 

ตร.พบดีเอ็นเอ ผู้ต้องสงสัย บนตัว “น้องชมพู่”

ยังไม่สรุป "น้องชมพู่" ถูกฆาตกรรม รองผบ.ตร. รับ ยังไม่มีหลักฐานจับใคร แต่มีหวังอีก 20 %

เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดี ออกมารับว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดสาเหตุการตาย ยังต้องรอรายงานผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ ยังไม่สามารถฟันธงว่าน้องชมพู่ ถูกฆาตกรรมหรือ เสียชีวิตเอง พร้อมระบุว่าไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มากพอที่จะออกหมายจับกุมหรือดำเนินคดีใครได้

มีรายงานว่า นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แพทย์ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องชมพู่คนแรก เมื่อ วันที่ 15 พฤษภาคม 1 วันหลังพบศพ  เปิดเผยผลชันสูตรศพน้องชมพู่​ อย่างละเอียดกับที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของรัฐสภา​ ชุดนายสิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.พลังประชารัฐ​ เป็นประธาน​ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แพทย์ผู้ชันสูตรแจ้งว่า​ เวลา14.30น.วันที่ 15 พฤษภาคม​ ชันสูตรร่างของน้องชมพู่ พบสภาพศพภายนอก มีเพียงร่องรอยขีดข่วน ที่อาจเกิดจากกิ่งไม้ รอยขีดข่วนกระจายเป็นกลุ่มๆ พบมากที่สุดบริเวณแผ่นหลัง รองลงมา คือ เหนือข้อเท้าด้านซ้าย เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นขณะยังมีชีวิต

ศีรษะ​พบว่ากะโหลกสภาพปกติ​ ไม่แตกร้าว​ คอไม่หัก​ ไม่มีรอยฟกช้ำ​ ขณะที่อวัยวะภายใน เริ่มเน่าจนไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ สมอง และ ปอดไม่พบความผิดปกติ ที่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย

ส่วนกระเพาะอาหารไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่เลย มีเพียงของเหลว 10 มิลลิลิตร เท่านั้น ที่สำคัญอวัยวะเพศไม่พบร่องรอยที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด เยื่อพรหมจรรย์ยังอยู่ครบสมบูรณ์

แพทย์สันนิษฐานว่า​ หากไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย มีความเป็นไปได้กรณีเด็กพลัดหลงป่า จนขาดอาหาร ขาดน้ำ เสียชีวิต​ คาดว่าเสียชีวิต​ประมาณวันที่​ 13​ พฤษภาคม​ ซึ่งเป็นวันที่​ 3ที่หายไปจากบ้าน

ขณะที่อีกด้าน มีรายงาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตร สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นทะเบียนในศาลยุติธรรม  ชันสูตรร่างของน้องชมพู่ อีกครั้ง ในวันที่18 พฤษภาคม เผยผลการชันสูตรเบื้องต้นว่า ไม่ปรากฏสาเหตุการเสียชีวิต แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ

มีรายงานว่า บาดแผลที่แพทย์นิติเวชพบที่อวัยวะเพศนั้น แพทย์ชี้ว่าไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากการร่วมเพศ แต่เกิดจากการกระแทกด้วยของแข็ง ทำให้เกิดบาดแผล ไม่พบอสุจิ หรือสารคัดหลั่งแฝงในร่างกาย ร่างกายขาดน้ำและอาหารก่อนเสียชีวิต

ทั้งนี้ผลการชันสูตร รอบแรกและรอบสอง มีความแตกต่างกันที่ร่องรอยที่อวัยวะเพศ!

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เผยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การชันสูตร และตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ในคดีนี้ใช้หลายสถาบันร่วมกันวิเคราะห์ เพื่อให้ออกรายงานการชันสูตรและผลพิสูจน์ที่แม่นยำ เชื่อถือได้มากที่สุด ขณะที่กรรมการธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของรัฐสภา เชิญแพทย์นิติเวชผู้ชันสูตรร่างน้องชมพู่ เข้าชี้แจงภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ตำรวจพบ คือการพบหลักฐานเส้นผมของน้องชมพู่ ถูกตัดด้วยของมีคม อยู่บริเวณที่พบศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานชี้ว่า ลักษณะของผมที่ถูกตัด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่น้องชมพู่จะตัดเอง หากด.ญ.ไม่มีมีดหรือกรรไกรติดไปด้วย

จากการพบเส้นผมถูกตัดนี่เอง ยังเป็นปริศนาที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนยังไม่สามารถชี้ชัดสรุปได้ว่า น้องชมพู่ อยู่ลำพังในจุดเกิดเหตุก่อนเสียชีวิต!?

คดีนี้จะไปต่ออย่างไร หลักฐานสำคัญชิ้นใด จะไขปริศนาเป็นคำตอบสุดท้ายของคดีนี้ หรือดีเอ็นเอปริศนาที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งพบในตัวของน้องชมพู่ และกำลังรอคำตอบที่ชัดเจน?!

จนท.เก็บ ดีเอ็นเอ 7 ผู้ต้องสงสัย คดี “น้องชมพู่”

ผลชันสูตรล่าสุด “น้องชมพู่” พบบาดแผลที่อวัยวะเพศ

แม่ "น้องชมพู่" รับโกหก ให้พี่สาวพูดเท็จ ยันพี่รักน้องมาก พ้อสังคมประณาม

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ