“แอนตาเวียร์” อาหารเสริมจากสมุนไพรไทยต้านโควิด-19


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แพทยศาสตร์ สจล. ร่วมกับเอกชน เปิดตัว “แอนตาเวียร์” นวัตกรรมสมุนไพรไทยต้านโควิด-19

วันนี้ (22 ก.ค. 63) คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัว “แอนตาเวียร์ (Antavir)” นวัตกรรมสมุนไพรไทยต้านโควิด-19

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 22 ก.ค. 63

อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 22 ก.ค. 63

นพ.อนวัช เสริมสวรรค์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ สจล. กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์โรคอุบัติใหม่อย่างโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อกว่า 15 ล้านรายทั่วโลก เสียชีวิตมากกว่า 6 แสนรายทั่วโลก  ทำให้คณะแพทยศาสตร์ สจล. ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการคิดค้นยาต้านไวรัสที่ดีและปลอดภัย ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการแพร่เชื้อง่ายและมีความรุนแรง เป็นที่มาของการศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยเพื่อนำมาใช้ในการรักษาไข้หวัด

ด้าน ดร.เกรียงศักดิ์ ขาวเนียม อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ สจล. และผู้นำทีมวิจัยแอนตาเวียร์ อธิบายว่า โดยปกติ กระบวนการติดเชื้อโควิด-19 ที่นำไปสู่การเสียชีวิต ประกอบไปด้วย

  1. ร่างกายมนุษย์ได้รับเชื้อไวรัส
  2. ไวรัสฟักตัว
  3. ไวรัสเติบโต เพิ่มจำนวนในร่างกายมนุษย์
  4. เมื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว กระตุ้นให้ร่างกายผลิตไซโตไคน์ (Cytokine) จำนวนทวีคูณอย่างผิดปกติ เกิดพายุไซโตไคน์ (Cytokine Storm)
  5. พายุไซโตไคน์ที่เพิ่มขึ้นฉับพลันทำลายเซลล์ปอด เกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลว (ARDS) นำไปสู่การเสียชีวิต

ดร.เกรียงศักดิ์ให้ข้อมูลว่า แอนตาเวียร์ นั้น เป็นอาหารเสริมครบวงจร ที่สามารถสกัดขั้นตอนการติดเชื้อโควิด-19 ในขั้นที่ 1-4 ได้ จากสารสกัด 6 ชนิดในแอนตาเวียร์ ได้แก่ สารสกัดพลูคาว สารสกัดขมิ้น สารสกัดกระชายขาว สารสกัดเบตากลูแคนจากยีสต์ สารสกัดถั่งเช่า และสารสกัดเห็ดหลินจือ

โดย สารสกัดเบตากลูแคนจากยีสต์ สารสกัดถั่งเช่า และสารสกัดเห็ดหลินจือ จะช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ให้ติดเชื้อโควิด-19 ยากขึ้น

แต่หากติดไวรัส ก็จะมี สารสกัดพลูคาว สารสกัดขมิ้น สารสกัดกระชายขาว ช่วยต้านไวรัส ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส

และแม้ไวรัสสามารถเพิ่มจำนวนได้ ก็จะถูก สารสกัดขมิ้น สารสกัดกระชายขาว ต้านการอักเสบ ยับยั้งพายุไซโตไคน์

“แอนตาเวียร์เป็นเพียงอาหารเสริม ไม่ใช่ยารักษา แต่การรักษาที่ดีที่สุด คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคแต่แรก”

นอกจากนี้ สารสกัดทั้ง 6 ชนิดยังถูกนำไปเข้ากระบวนการทำเป็นยาแคปซูลและซอฟต์เจล ซึ่งได้รับการจดอนุสิทธิบัตรเมื่อปี 2561 โดยกระบวนการดังกล่าวช่วยเพิ่มความเสถียรของสารสำคัญ ไม่ให้ถูกทำลายโดยออกซิเจน เนื่องจากสารบางชนิด เช่น วิตามินซี จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน และสูญเสียคุณภาพไปจนหมด

“สารสมุนไพรบางตัวไม่ชอบออกซิเจน เราจึงต้องผ่านกระบวนการนวัตกรรมของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าสารจะยังคงอยู่ในอาหารเสริม” ดร.เกรียงศักดิ์กล่าว

กระบวนการดังกล่าวและการทำเป็นซอฟต์เจล ยังเพิ่มการดูดซึมของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และคงสูตรตำรับที่พัฒนาจากสมุนไพรที่มีงานวิจัยรองรับการออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัส

ในส่วนประเด็นที่มีข้อสงสัยว่า การรับประทานสมุนไพรโดยตรงในอาหารต่าง ๆ ช่วยในการต้านโควิด-19 เหมือนแอนตาเวียร์ หรือไม่นั้น ดร.เกรียงศักด์ยืนยันว่า “การรับประทานสมุนไพรโดยตรงไม่ได้ประโยชน์เท่าสารสกัดจากสมุนไพร สมมติว่ากินกระชาย ต้องกิน 15 จาน จึงจะได้คุณภาพเท่าสารสกัดในอาหารเสริม และการกินโดยตรงยังมีรสร้อนแรง และมีกากอาหารเยอะ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับประโยชน์ขนาดนั้น”

สำหรับ แอนตาเวียร์ เป็นการต่อยอดในช่วงโควิด-19 หลังมีการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสมุนไพรไทย อาทิ ขมิ้น พลูคาว และกระชายขาว มาเป็นเวลานานกว่า 5 ปี จนค้นพบว่าสมุนไพรดังกล่าวสามารถหยุดยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัสได้  ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการรักษาไข้หวัด โดยเฉพาะไข้หวัดที่มีความรุนแรง เช่น โควิด-19

นอกจากนี้ คณะแพทยศาสตร์ สจล. ยังเตรียมเดินหน้าพัฒนางานวิจัยดังกล่าวเพื่อประยุกต์ใช้กับสมุนไพรไทยตัวอื่น ๆ เพื่อเป็นทางเลือกแทนการรักษาด้วยยานำเข้าจากต่างประเทศที่มีผลข้างเคียงและราคาแพง ป้องกันการใช้ยาผิดประเภทเช่น การใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น จนเกิดอาการดื้อยา ซึ่งการขับเคลื่อนงานวิจัยนี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการนำเข้ายาจากต่างประเทศในระยะยาว ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง

อย่างไรก็ตาม นพ.อนวัช เน้นย้ำว่า แอนตาเวียร์มีสถานะเป็นเพียงอาหารเสริมสำหรับบริโภคเพื่อ “ป้องกัน” โควิด-19 เท่านั้น ยังไม่มีผลในการเป็นยารักษา ทั้งนี้ในอนาคตอาจทดสอบทางคลินิกในคนเพื่อพัฒนาเป็นยาต่อไป

โดยการรับประทานแอนตาเวียร์ควรรับประทานเฉพาะในช่วงที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส หรือต้องไปที่เสี่ยง เช่น สถานที่ที่แออัด หรือเมื่อกลับบ้านจากข้างนอกแล้วมีอาการคล้ายเป็นหวัด ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องยาวนาน และผู้ที่มีโรคตับหรือไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอนตาเวียร์

ด้าน วโรกาส ตาปสนันทน์ กรรมการบริษัทเมดิกรีนจำกัด ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายแอนตาเวียร์ กล่าวว่า แอนตาเวียร์จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ แอนตาเวียร์รูปแบบแคปซูล และแอนตาเวียร์แพนดูรา (Antavir Pandura) ซึ่งเป็นแอนตาเวียร์รูปแบบซอฟต์เจล

สำหรับแบบแรก จะเน้นสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนแบบหลัง จะเน้นต้านไวรัส การอักเสบ การเกิดไซโตไคน์ ซึ่งต้องกินทั้งคู่จึงจะได้ผลดี

ปัจจุบัน แอนตาเวียร์ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว โดนสนนราคาเบื้องต้นอยู่ที่ราว 300 บาทต่อแผง ซึ่งเริ่มจำหน่ายแล้วผ่านทางไลน์แอด เนื่องจากช่วงแรกยังผลิตได้น้อย จึงจะแจกให้ผู้ที่จำเป็นก่อน เป็นการแจกฟรี และยังไม่มีการกำหนดว่าจะนำไปวางขายตามร้านยาหรือห้างสรรพสินค้าใดบ้าง

“ไม่จำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่อง อย่างนักข่าวไปทำข่าวที่คนเยอะ ๆ เหมือนใส่หน้ากาก พกแอลกอฮอล์ ป้องกันตัว ก็กินอันนี้เข้าไปป้องกัน กลับบ้านมีอาการคันคอปวดหัวเป็นหวัด ก็กิน คิดซะว่าเป็นหวัดก็กิน” วโรกาสกล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดผลิตภัณฑ์ “แอนตาเวียร์” เพิ่มเติม ต้องการสั่งซื้อ หรือขอรับไปทดลองใช้ ติดต่อได้ที่ Line ID: @medigreen

ข่าวดี! วัคซีนโควิด-19 ของ ม.อ็อกซ์ฟอร์ด กระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันได้

“สมองล้า เพลียง่าย หายใจไม่ออก” ยุโรปศึกษาผลกระทบระยะยาวจากโควิด-19

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ