ภาพผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยผู้ประท้วงหลายพันรายเผชิญหน้ากับตำรวจที่ยืนเรียงเป็นแนวกั้นผู้ประท้วง
“ทรัมป์” สั่ง ยิงแก๊สน้ำตาปราบม็อบ ครั้งแรกในรอบ 60 ปีของสหรัฐฯ
หลังจากนั้น การประท้วงได้ยกระดับเป็นการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ หลังพบการจุดไฟเผาที่กลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่
ตำรวจได้ใช้ระเบิดแสง หรือ Stun Grenades และสเปรย์พริกไทยเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการขว้างอิฐ ก้อนหิน และวัตถุระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ผู้ประท้วงกว่า 45 ราย ถูกจับกุม
การประท้วงในซีแอตเทิลทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางไปสลายการชุมนุมในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน และเตรียมส่งกองกำลังมายังเมืองซีแอตเทิลด้วย ซึ่งทำให้คนไม่พอใจและออกมาประท้วง
ขณะที่สถานการณ์ในเมืองพอร์ตแลนด์ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากพอร์ตแลนด์เป็นเมืองแรกที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งกองกำลังทหารส่วนกลางเข้าปราบการชุมนุมตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
การปะทะกันตำรวจกับผู้ประท้วงในเมืองพอร์ตแลนด์เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสง ด้านผู้ประท้วงตอบโต้กลับด้วยการใช้อาวุธลักษณะเดียวกัน จนก่อให้เกิดควันฟุ้งโขมง
ผู้ประท้วงหลายรายได้รับบาดเจ็บ และนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค. ผู้ประท้วงที่นี่ถูกจับกุมแล้วกว่า 60 ราย
อีกเมืองหนึ่งที่มีการปะทะกันคือ ออสติน ในรัฐเท็กซัส โดยวิดีโอที่ถูกบันทึกจาก Facebook Live ของผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เป็นภาพผู้ประท้วงราว 100 คน กำลังเดินขบวนในเมืองเมื่อวันเสร์ที่ผ่านมา
ทันใดนั้น มีเสียงปืนหลายนัดดังขึ้น คนอัดคลิปวีดีโอและผู้ประท้วงคนอื่นๆ วิ่งหนีเพื่อหาที่หลบภัย
ต่อมามีรายงานว่า เป็นการยิงจากรถยนต์คันหนึ่งที่วิ่งฝ่าเข้ามากลางฝูงชน
การยิงครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเหยื่อรายนี้คือ แกเร็ธ ฟอสเตอร์ ชายวัย 28 ปี ผู้ประท้วงที่อยู่ตรงบริเวณนั้นพอดี
การส่งกองกำลังทหารส่วนกลางเข้าไปสลายการชุมนุมคาดว่า จะทำให้การประท้วงยกระดับกลายเป็นความรุนแรงในหลายรัฐ ซึ่งการประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวในสหรัฐฯ ดำเนินอย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลากว่า 9 สัปดาห์
"ทรัมป์" ขู่เตรียมส่งทหารสลายการชุมนุมในอีกหลายเมือง