ธงชาติอเมริกาหน้าสถานกงสุลค่อยๆ ถูกชักลงจากเสา มีภาพทหารเรือของสหรัฐฯ ตั้งแถวอยู่ภายในอาคาร ระหว่างที่ธงชาติอเมริกาถูกชักลง ถือเป็นการปิดของสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน อย่างเป็นทางการ เป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จีนเตรียมปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตู ตอบโต้สหรัฐ
คืนก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของจีนได้พยายามใช้ค้อนเลาะป้ายสถานกงสุลสหรัฐฯแห่งนี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ยังมีภาพรถบรรทุกหลายคันยังได้เข้าไปภายในสถานกงสุลเพื่อเคลื่อนย้ายของออก และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดได้ขนถุงดำขนาดใหญ่อย่างน้อย 10 ถุงออกมา ส่วนเจ้าหน้าที่ทูตของสหรัฐฯ ได้เดินทางออกจากสถานกงสุลแล้วเช่นกัน
เมื่อวานนี้ ชาวจีนหลายร้อยคนได้รวมตัวกันเพื่อถ่ายเซลฟี่กับสถานกงสุลสหรัฐฯ หลายรายตะโกนสนับสนุนจีน ขณะที่ชายรายนี้ได้ชูธงชาติจีนบนระเบียงอาคารที่ใกล้กับสถานกงสุล
พอตกกลางคืน ตำรวจจีนตรึงกำลังอย่างเต็มที่ และพยายามควบคุมชาวจีนที่ตะโกนกู่ร้องด้วยความดีใจที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ถูกสั่งปิด
การสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตูครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัสภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา
การตอบโต้กลับด้วยการทำแบบเดียวกัน อาจนำไปสู่การลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และการเผชิญหน้าระหว่าง 2 มหาอำนาจมากขึ้น เหตุการณ์ที่สถานกงสุลจีนในเมืองฮูสตันเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รถหลายคันทยอยขับออกจากสถานกงสุลจีนในฮุสตัน
ทันทีที่รถคันสุดท้ายพ้นไป ตำรวจสหรัฐฯ ก็ยกแผงเหล็กมากั้นปิดทางเข้าออก ที่ประตูด้านหลังของสถานกงสุล เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พยายามปลดกลอนประตู และพังประตูเพื่อเข้าไปในอาคาร
การสั่งปิดสถานกงสุลจีนในสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากพบการเผากองกระดาษจำนวนมาก ที่คาดว่าเป็นเอกสารเกี่ยวกับความมั่นคง และอาจเป็นข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่สถานกงสุลจีนไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสหรัฐฯ เข้าไปดับควันไฟที่ฟุ้งขโมงไปทั่วบริเวณ
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยว่า จีนกำลังสอดแนมข้อมูลส่วนตัวของประชาชนสหรัฐฯ ที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นการรุกรานอธิปไตยของประเทศเจ้าบ้าน
ครั้งนี้นับว่าสหรัฐฯ เลือกพูดตอบโต้จีนอย่างเปิดเผย แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า เอกสารเหล่านั้นเป็นข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันหรือไม่
แต่ในระยะหลัง จีนถูกทั้งสหรัฐฯ และยุโรปกล่าวหาว่าสอดแนมข้อมูลความมั่นคงของประเทศอื่น เป็นการทำสงครามรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล ที่แต่ละประเทศต้องป้องกันข้อมูลความมั่นคงของตัวเองจากการถูกแฮ็ค
จีนตอบโต้ว่าการกล่าวหานี้เป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย และขอให้สหรัฐฯ ถอนคำสั่งนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่กำลังแตกหัก นับเป็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดที่สุดในรอบหลายสิบปี การใช้นโยบายตอบโต้จีนฯ อย่างเปิดเผยถูกมองว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากเรื่องโควิด-19 และการประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิว มายังการตอบโต้จีนแทน เพื่อปลุกกระแสชาตินิยม
นักการทูตมะกัน ออกจากกงสุลในเฉิงตู ก่อนถึงเส้นตายปิดทำการ