สตง.อัด "ท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี" ใช้งบ 9 พันล้านไม่คุ้ม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สัปดาห์นี้พีพีทีวีนำเสนอซีรีส์ข่าว โครงการชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีของกรมพัฒนาชุมชน ที่ใช้งบประมาณดำเนินการกว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งผลการสุ่มตรวจของ สตง.พบว่าการดำเนินงานไม่คุ้มค่ากับเงินที่ทุ่มลงไป

อัปเดตข่าวสถานการณ์ โควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 29 ก.ค. 63

พบติดเชื้อ โควิด-19 รายใหม่ 1 ราย เป็นทหารไทยกลับจากฝึกที่ฮาวาย

ชุมชนไทลื้อ บ้านร้องแง ตำบลวรนคร อ.ปัว จ.น่าน เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนปัญหาของโครงการชุมชนท่องเที่ยวโอท็อปนวัตวิถีนี้ได้เป็นอย่างดี ชาวบ้านในพื้นที่เคยออกมาร้องเรียนว่าพวกเขาไม่ได้ประโยชน์เต็มที่หลังโครงการลงไปในชุมชนไม่นาน

โปสเตอร์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ ที่นอนพร้อมผ้าปู หมอน มุ้ง ตู้เย็น ผ้าทอลายไทลื้อ เป็นพัสดุที่พัฒนาชุมชนอำเภอปัวนำมามอบให้กลุ่มโฮมสเตย์ ภายใต้โครงการนี้ ที่น่าสนใจคือของสิ่งของที่นำมาแจกเป็นสิ่งของที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตกันอยู่แล้ว แต่พัฒนาชุมชนอำเภอปัวกลับไปซื้อจากนอกพื้นที่เพื่อมาแจกให้ชาวบ้านที่ผลิตสินค้าเหล่านี้ใช้กัน อย่างเช่น ผ้าทอลายไทลื้อ

 นอกจากนี้การนำโครงการลงมาในชุมชนใช้งบประมาณราว 1 ล้าน 7 แสนบาท ชาวบ้านระบุว่าหน่วยงานไม่ได้สอบถามความต้องการและทิศทางการพัฒนาของชุมชนทำให้โครางการนี้ นอกจากจะไม่คุ้มกับงบประมาณและชาวบ้านไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่ 

จากการสำรวจของทีมข่าวพีพีทีวี ยังพบว่า มีอีกหลายชุมชนทั่วประเทศ ที่มีปัญหาแบบนี้ บางชุมชนเกิดความขัดแย้ง และไปทำลายระบบบริหารจัดการการท่องเที่ยวเดิมของชุมชน

นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ชี้แจงกับพีพีทีวีว่า โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ต้องการนำงบประมาณกระจายไปยังชุมชน เพื่อพัฒนาใน 5 กระบวนการ ทั้งพัฒนาคน สถานที่ท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ พร้อมเปลี่ยนรูปแบบการกระจายสินค้าโอทอป จากเดิมที่นำสินค้าออกมาขายภายนอกชุมชน เปลี่ยนเป็นการชวนคนซื้อเข้ามาที่ชุมชนแหล่งผลิตสินค้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว และการประเมินโครงการไม่ใช่รูปแบบว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่เป็นการประเมินเบื้องต้น เพื่อต่อยอดการพัฒนาในครั้งต่อไป ซึ่งโครงการนี้ มีชุมชนเข้าร่วม 3,273 ชุมชน ใช้งบประมาณ 9,328 ล้านบาท เป็นงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จากการประเมินเบื้องต้นของกรมการพัฒนาชุมชน มีเพียง 167 ชุมชน ที่มีศักยภาพพร้อมเปิดรับท่องเที่ยวจริง

ขณะที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สตง. สุ่มตรวจ 74 ชุมชนใน 11 จังหวัด พบว่า ร้อยละ55 ของชุมชนที่ตรวจสอบ ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ส่วนร้อยละ29 ยังไม่สามารถเป็นชุมชนที่มี ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว แต่มีศักยภาพเพียงพอหากได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอีกร้อยละ14 สามารถเป็นชุมชนที่มี ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ซึ่งในสัดส่วนนี้เป็นชุมชนที่เติบโตจากการท่องเที่ยวเดิมอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นผลสำเร็จจากโครงการนี้  และจากผลการตรวจสอบนี้ ทำให้การตรวจสอบของสตง.สรุปได้ว่าการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า 

สลายฝัน OTOP นวัตวิถี 9 พันล้านละลายแม่น้ำ

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ