จีนจับกุมนักเรียนฮ่องกง 4คน ข้อหาแบ่งแยกดินแดน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เป็นเวลาครบหนึ่งเดือนพอดี ที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่กับฮ่องกงและเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับนักเรียนฮ่องกง 4 คนถึงที่ หลังพบว่าพวกเขาเคยโพสต์ข้อความที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องเอกราชบนโลกออนไลน์ คนอายุน้อยที่สุดที่ถูกจับครั้งนี้มีอายุ 16 ปี พวกเขาเป็นนักเรียนกลุ่มแรกที่ถูกจับภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่

ทางการจีนเตรียมแถลงรอบ 2 สถานการณ์ฮ่องกง

ตร.ฮ่องกง รวบ 4 นศ. ปลุกระดม ผ่านโซเชียลฯ  

Tony Chung (โทนี่ ชุง) นักเรียนชาวฮ่องกงวัย 19 ปี พร้อมกับเพื่อนนักเรียนอีก 3 คน ถูกตำรวจลับ หรือ Secret Police จับกุมเมื่อคืนนี้ หลังโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวกับการเรียกร้องเอกราช  ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ การเรียกร้องเอกราชเข้าข่ายการการก่อกบฏและแบ่งแยกดินแดน พวกเขาเป็นนักเรียนกลุ่มแรกที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่

โทนี่ ชุง เป็นอดีตหัวหน้ากลุ่ม Student-localism กลุ่มที่สนับสนุนเอกราชของฮ่องกงที่ถูกยุบไปแล้ว ขณะที่อีก 3 คน เป็นนักเรียนชาย 2 คน และนักเรียนหญิงอีก 1 คน ทั้งหมดมีอายุระหว่าง 16-21 ปี

หลังการจับกุมนักเรียนทั้ง 4  โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวและอดีตแกนนำได้โพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว เป็นภาพของ Tony Chung ถูกกลุ่มชายที่คาดว่า เป็นตำรวจลับนอกเครื่องแบบควบคุมตัว โดย Tony Chung ถูกใส่กุญแจมือไขว้หลัง ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถตู้ไปเมื่อเวลาราว 2 ทุ่ม ของเมื่อคืน

ตำรวจฮ่องกง ยิงกระสุนยาง สลายม็อบต้านจีน

ขณะที่กลุ่มชายที่คาดว่า เป็นตำรวจลับนอกเครื่องแบบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายรายเดินทางเข้าไปจับกุม Yanni Ho (ยานนี โห) นักเรียนหญิงถึงบ้าน โดยมีแม่ของเธอที่คาดว่าเป็นหญิงเสื้อดำเดินทางไปพร้อมกับเธอด้วย เช่นเดียวกับ Tony Chung, Yanni Ho ถูกนำมือไขว้หลัง และมีเสื้อผ้าของเธอคลุมมืออีกที ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถตู้ไปเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ตำรวจฮ่องกงได้ใช้กฎหมายความมั่นคงจับชาวฮ่องกงไปแล้ว 15 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประท้วงที่ชูป้าย หรือตะโกนข้อความเรียกร้องเอกราช แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจจับข้อความบนโลกออนไลน์ และถือเป็นนักเรียนที่เป็นที่รู้จักในบรรดาผู้ประท้วง

อาจเป็นการจับกุมที่จีนต้องการแสดงให้คนรุ่นใหม่ในฮ่องกงเห็นเป็นตัวอย่าง ข้อความที่ทำให้ Tony Chung ถูกจับกุมคือ โพสต์เฟซบุ๊คของเขาที่บรรยายและเขียนเกี่ยวกับนโยบายชาตินิยมของจีน ส่วนนักเรียนอีก 3 คน โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับกลุ่ม Student-localism กลุ่มเรียกร้องเอกราชที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมา

กลุ่ม Student localism ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาโดยเยาวชนเหล่านี้ได้ประกาศยุติบทบาทไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม ก่อนที่กฎหมายความมั่นคงจะถูกบังคับใช้ โดยสมาชิกของกลุ่มประกาศว่าจะรณรงค์เรื่องนี้จากต่างประเทศแทน ซึ่งก็อาจสะท้อนได้ว่า มีการกวาดล้างความเคลื่อนไหวหรือองค์กรต่างๆที่เรียกร้องประชาธิปไตยก่อนที่กฎหมายความมั่นคงจะถูกประกาศใช้ เพื่อเป็นการปรามไม่ให้มีการขยายแนวคิดต่อไปในรูปแบบอื่นๆ

สำหรับใจความสำคัญของกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้คือ การแสดงความคิดเห็น การประท้วง หรือกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ที่จีนมองว่าเป็นพฤติกรรมการก่อกบฏ การแบ่งแยกดินแดน หรือการบ่อนทำลายรัฐบาลจีน จีนสามารถจับกุมและดำเนินคดีได้ทันที ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

นอกเหนือนอกเรียนทั้ง 4 จะถูกจับกุมแล้ว มีการยึดข้าวของอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และเอกสารของพวกเขาไปด้วย

โจชัว หว่อง เปิดเผยว่า โทรศัพท์มือถือของนักเรียนทั้ง 4 คน ถูกแฮ็คไม่นานหลังจากถูกจับกุม ขณะที่ก่อนหน้านี้ทั้ง Tony Chung และ โจชัว หว่อง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสะกดรอยตามมาเป็นเวลา 2-3 วัน ซึ่งล่าสุดโจชัว หว่องยังเคลื่อนไหวบนทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง

การประท้วงในฮ่องกงตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นการเคลื่อนไหวของเยาวชนเป็นส่วนใหญ่ ที่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนตั้งแต่อายุ 15 ถึง 30 ปีและคนที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกตั้งข้อหามีอายุเพียง 12 ปีน่าสนใจว่า การเคลื่อนไหวของเยาวชนสะท้อนสังคมฮ่องกงว่าอย่างไร?

ในการประท้วงปีที่แล้ว เราเห็นผู้ประท้วงจำนวนมากเป็นเด็กมัธยม และเด็กมหาวิทยาลัย ที่ออกมาปะทะกับแก๊สน้ำตา พวกเขาหาวิธีการตอบโต้กับตำรวจด้วยวิธีต่างๆ เช่น นำอิฐบล็อกจากฟุตบาทมากั้นเพื่อแบ่งเขตพื้นที่ จนถึงการนำเปลือกทุเรียนมาวางบนถนนเพื่อให้ตำรวจปราบปรามพวกเขาได้ช้าลง เช่นเดียวกับการสื่อสาร พวกเขามักนัดหมายกันผ่านแอพพลิเคชั่นแชทที่ตำรวจติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ยาก หรือใช้ซิมชั่วคราวที่ทิ้งทันทีหลังชุมนุมเสร็จ

การประท้วงปีที่แล้วเป็นการประท้วงที่ไม่มีกลุ่มแกนนำใดเฉพาะเจาะจง เป็นการเคลื่อนไหวแนวระนาบ ต่างจากการประท้วงในอดีต การประท้วงสะท้อนความแบ่งแยกระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าในฮ่องกง

Gary Wong (แกรี่ หว่อง)อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกงมองว่า รุ่นพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ หลายคนอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่พวกเขาเติบโตมากับการจำกัดสิทธิเสรีภาพ และถูกปลูกฝังแนวคิดชาตินิยม

ขณะที่คนอายุช่วง 15-30 ปี เป็นคนที่เกิดและโตในฮ่องกง บางคนเกิดทันช่วงที่ฮ่องกงยังอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ขณะที่คนรุ่นหลังได้รับอิทธิพลจากแนวคิดประชาธิปไตยแบบตะวันตกอย่างเต็มรูปแบบ

ยิ่งไปกว่านั้นคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ทันเมื่อจีนหมดสัญญากับอังกฤษ ในการปกครองฮ่องกงด้วยหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบในปี 2047 หรืออีก 27 ปีหลังจากนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกกังวลต่ออนาคตของฮ่องกงเมื่อต้องกลับไปสู่ระบบการปกครองแบบจีน ที่พวกเขาไม่ได้เติบโตมา

อีกปัจจัยคือ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เกาะฮ่องกงที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจของโลก กลับเป็นเขตการปกครองที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดอีกที่หนึ่ง เด็กรุ่นใหม่ในฮ่องกงเติบโตมากับความเหลื่อมล้ำที่เลวร้ายกว่าในอดีต

ท่ามกลางตึกทันสมัยสูงเสียดฟ้า ที่อยู่อาศัยในฮ่องกงมีราคาแพงที่สุดในโลก หลายครอบครัวอาศัยอย่างเบียดเสียดกันในอพาร์ทเมนท์ห้องเล็กๆ เด็กรุ่นใหม่ตั้งตัวได้ยากขึ้น ด้วยเงินเดือนของพวกเขา พวกเขาแทบไม่สามารถซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยในฮ่องกงได้ ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่ในฮ่องกงไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล และออกมาประท้วงเต็มท้องถนนเมื่อปีที่แล้ว

นอกจากประชาธิปไตย คนเหล่านี้เรียกร้องคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพวกเขามองว่าการอยู่ภายใต้การปกครองของปักกิ่งอย่างเต็มตัว จะทำให้เศรษฐกิจฮ่องกงแย่ลง เพราะฮ่องกงจะไม่ใช่สถานที่ที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอีกต่อไป

แต่หลังจากกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ สิ่งที่คนรุ่นใหม่ในฮ่องกงหวาดกลัว มาหาพวกเขาเร็วกว่าที่คิด และคนที่พวกเขาเผชิญหน้าตรงๆ ไม่ใช่พ่อแม่ หรือคนรุ่นก่อน แต่คือจีนแผ่นดินใหญ่

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ