หลานคนลุ่นตาม สำหรับภารกิจปล่อยลูกช้างห้วยขาแข้งพลัดหลงเข้าโขลงช้าง โดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งขณะนี้รวมเวลาเกือบเดือนแล้ว ล่าสุด นายรังสิต เหล่าพิมพา หัวหน้าชุดเฝ้าระวังช่วยเหลือลูกช้าง ของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ประจำหอต้นผึ้ง รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 เวลา 18.00-19.00 น. ปรากฏว่า มีช้างตัวผู้เดินเข้ามาสำรวจที่บริเวณคอกก่อน 1 ตัว มีการร้องตอบรับกันในช่วงเวลาแรก และช้างตัวผู้มีการเดินเอางวงมาสัมผัสกับงวงตัวลูกช้างพลัดหลง หลังจากนั้นก็เดินกลับไปหาฝูงที่หากินอยู่บริเวณข้างหอต้นผึ้ง
คืนแรกสัญญาณดีลูกช้างป่าพลัดหลงที่ห้วยขาแข้งยังรอแม่มารับ "เริ่มส่งเสียงหากันเป็นระยะ"
ต่อมาเวลา 19.18-21.30 น. มีกลุ่มโขลงช้าง วนกลับมาที่หน้าคอกลูกช้างพลัดหลงอีกรอบ รวมแล้วนับได้ 18 ตัว มีการส่งเสียงร้องตอบโต้กันบ้างในบางครั้งแต่ไม่บ่อยนัก ตัวเล็กที่อยู่ในฝูงมีพฤติกรรมที่อยากจะเข้ามาเล่นกับลูกช้างพลัดหลง แต่โดนช้างในโขลงปรามๆ โดยดึงหางไว้บ้าง ต้อนให้เกาะกลุ่มอยู่ในโขลงบ้าง ส่วนลูกช้างพลัดหลงยังแสดงอาการนิ่ง และเงียบ มีการร้องกลับไปบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น
เวลา 21.30-23.00 น. กลุ่มโขลงช้างขยับตัวลงไปเล่นน้ำและหากินที่ลำห้วยใกล้ๆ คอกลูกช้าง
เวลา 23.00-00.30 น.มีวัวแดง เข้ามาในพื้นที่ 1 ตัว หลังจากนั้นเวลา 00.50 น. มีเสือโคร่ง ตามเข้ามาในพื้นที่ 1 ตัว ทีมงานเฝ้าดูตลอดอย่างไม่ให้คลาดสายตา ฟังเสียงกลุ่มโขลงช้างขยับห่างออกไป แต่ยังคงได้ยินเสียงแว่วมาเป็นระยะๆ สื่อให้ทราบว่าห่างออกไปไม่มากนัก
วันที่ 30 กรกฎาคม 2563
ปล่อย "ลูกช้าง" ห้วยขาแข้งพลัดหลงคืนป่ากลับไปเจอแม่
-เวลา 05.00-07.30 น. เริ่มได้ยินเสียงโขลงช้างหักไม้ไผ่และส่งเสียงร้อง ดังเข้ามาในระยะใกล้หอต้นผึ้ง อีกครั้ง สักพักเสียงค่อยๆ เงียบลงอีก
-ช่วงเวลา 10.15-15.35 น. ได้ยินเสียงโขลงช้างส่งเสียงร้องดังมาในระยะใกล้รอบหอต้นผึ้ง ลูกช้างพลัดหลงร้องตอบบ้างเป็นครั้งคราว
โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยการเฝ้าดูแลลูกช้าง จัดชุดเจ้าหน้าที่จุดสกัดที่ 3 (ห้วยก้อย) ของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จำนวน 2 นาย เเละเจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จำนวน 1 นาย และเสริมชุดเฝ้าระวังเพิ่มเติม อีก 5 นาย ไว้เพื่อเป็นชุดสำรองเคลื่อนที่เร็วในการเฝ้าระวังช้างโทนและกลุ่มสัตว์ผู้ล่า
อย่างไรก็ตาม การที่ช้างโขลงแม่เข้ามาหาลูกช้างแบบใกล้ชิต และมีช้างบางตัวมาแตะงวงกับลูกช้างแล้ว
ดร. ศุภกิจ พินิจพรสวรรค์ ผอ.ส่วนสารสนเทศด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการปล่อยลูกช้างคืนป่า ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บอกว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดี บอกเจ้าหน้าที่ว่า อย่าตัดใจว่าโขลงไม่รับแล้ว ให้ใจเย็นๆ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ช้างจะใช้เวลาในการสื่อสารกัน บางตัวเร็ว แต่บางตัวใช้เวลานานหลายวัน ส่วนตัวเชื่อว่า ช้างโขลงแม่จะวนมารับลูกช้างไปอยู่กับฝูง จนสำเร็จ