รพ.ชัยนาทนเรนทร รับ ส่งศพทารกผิดคนไปเผา ย้ำไม่มีเจตนาปกปิด-ทำลาย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีการสลับตัวศพเด็กทารกที่คลอดออกมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรโดยพ่อแม่เด็กยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายรวมติดใจซ้ำสองเมื่อลูกถูกสลับไปเผาผิดคน ล่าสุดวันนี้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นความผิดพลาดของขั้นตอนการส่งมอบจริง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความสับสนของเจ้าหน้าที่ที่รับเวรต่อกัน

เด็ก ม.1 ตกท่อระบายน้ำเมืองกรุงฯ ข้างทำเนียบ ขณะทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์ต้านโกง

ดร.ธรณ์ เตือน เก็บหอยตามชายฝั่งมากินระวังไม่สดอาจมีเชื้อโรค

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จังหวัดชัยนาท แถลงข้อเท็จจริงกรณีส่งศพทารกผิดคน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยพญ.ณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้น ทราบว่านางสาวกฤษณา ขวัญศรี เจ็บครรภ์มานอนโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 ก.ค.63 เวลาประมาณ 07.50 น. และคลอดเวลา 11.49 น. พบว่าทารกเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด แม้ทีมแพทย์ได้ช่วยกู้ชีพทารกอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตกระทันหันและไม่คาดคิดจึงไม่สามารถช่วยชีวิตได้ โรงพยาบาลจึงได้ส่งศพทารกตรวจเพื่อชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ในวันเดียวกัน และนำกลับมาเก็บไว้ที่ห้องรักษาศพ ในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งในวันเดียวกันนี้มีผู้ป่วยอีกหนึ่งรายคือนาง ข. ได้คลอดลูกเสียชีวิตเช่นกัน ซึ่งมีความประสงค์ ให้โรงพยาบาลอำนวยความสะดวกในการอนุเคราะห์ฌาปนกิจศพ ในวันที่ 1 สิงหาคม เวลาประมาณ 10:30 น. ที่วัดศรีวิชัยวัฒนาราม อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท จากนั้นในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ได้ติดต่อขอรับบุตรของคุณกฤษณา ไปชันสูตรซ้ำ ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เมื่อโรงพยาบาลตรวจสอบจึงพบว่ามีการส่งมอบศพทารกผิดคน ซึ่งในเวลานั้นศพทารกที่เป็นลูกของคุณกฤษณาถูกเผาไปแล้ว

พญ.ณัฐภร กล่าวต่อว่า ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีเจตนาทำให้ทารกเสียชีวิต และปกปิดข้อเท็จจริงหรือทำลายหลักฐานและร่วมมือกับพ่อแม่ของเด็กอีกคนอย่างที่ตกเป็นข่าว โดยทางโรงพยาบาลได้แนะนำให้น.ส.กฤษณา ส่งศพทารกไปชันสูตรเอง เพียงแต่ต้องรอผลอย่างละเอียดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ โดยเบื้องต้นได้ติดต่อพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายแล้ว แต่เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ จึงต้องให้เวลาและหาแนวทางเยียวยา

ขณะที่พ่อแม่ของเด็กทารก  ซึ่งเป็นครอบครัวฝั่งที่นำลูกของน.ส.กฤษณา ไปทำพิธีเผา วันนี้้เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการสลับตัวเด็ก และตนก็สูญเสียลูกไป โดยพ่อเด็ก เปิดเผยว่า เนื่องจากลูกของตนอายุครรภ์ไม่ครบกำหนด ภรรยาตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือนกว่า และมีอาการตกเลือดก่อนหน้านั้น แพทย์จึงทำการผ่าตัดและแจ้งล่วงหน้าไว้แล้วว่าเด็กอาจมีโอกาสรอดชีวิตน้อย เมื่อทราบว่าลูกเสียชีวิตจึงให้ทางโรงพยาบาลช่วยดำเนินการในการทำพิธีศพ เมื่อรับศพออกมาจากโรงพยาบาลก็ได้ทำพิธีการต่อเลย ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น  จึงไม่ได้เปิดดูเพศของเด็กทารกว่าเป็นเพศอะไร ทราบแต่ว่าลูกของตนเป็นเพศหญิง ตามที่แพทย์แจ้งมา  พอมารู้ทีหลังว่าศพทารกที่เผาไม่ใช่ลูกของตนก็ตกใจและเสียใจมากเช่นกัน

ทั้งนี้ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดที่ทำพิธีฌาปนกิจศพเด็กทารก ที่วัดศรีวิชัยวัฒนาราม ได้พูดคุยกับนายสมเกียรติ น้อยยา สัปเหร่อผู้ที่ทำหน้าที่ในวันนั้น ว่าทางโรงพยาบาลได้ติดต่อจะนำศพเด็กทารกเข้ามาเผาในช่วงเช้า ซึ่งสัปเหร่อได้ตั้งข้อสังเกต ว่าวันนั้นมีแพทย์และพยาบาลมาร่วมพิธีหลายคนทั้งที่ปกติแล้วจะไม่มีบุคลากรจากโรงพยาบาลมาร่วมงานศพ และมีญาติแค่คนเดียวคือพ่อของเด็กทารก และในระหว่างทำพิธียังมีบุคคลากรรายหนึ่งถามว่าเด็กจะเฮี้ยนหรือไม่ ตนก็สงสัยว่าทำไมต้องถามแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าสอบถามได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเอง จนมาทราบวันต่อมาว่าศพเด็กที่เผามีปัญหาดังกล่าว ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันเพราะเป็นสัปเหร่อมา 30 กว่าปี ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย

ครอบครัวของน.ส.กฤษณา  ที่ถูกนำลูกไปเผาผิดคน วันนี้ไม่ได้เดินทางไปร่วมฟังแถลงด้วยเนื่องจากยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นทาง 2 ครอบครัวนี้ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกัน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของโรงพยาบาลไม่ใช่การตั้งใจสลับตัวศพเด็กทารก

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ