นิวมีเดีย PPTVHD36 นำเสนอ “36 ภาพ” ส่วนหนึ่งของอีกหนึ่งเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ของโลก ซึ่งทั่วโลกต่างให้ความสนใจและร่วมเป็นกำลังใจผ่านแฮชแท็ก #PrayForLebanon
เจ้าหน้าที่ คาด "แอมโมเนีย ไนเตรท"ชนวนเหตุระเบิดเลบานอน
ระเบิดเขย่าเมืองหลวงเลบานอน เสียชีวิตกว่า 70 คน
เกิดเหตุระเบิดใหญ่ ท่าเรือกรุงเบรุต เลบานอน ผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก
1. เกิดการระเบิด
เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 4 สิงหาคม 2020 ตามเวลาท้องถิ่น (22.00 น. ประเทศไทย) กลุ่มควันหนาทึบได้ลอยขึ้นมาจากจุดเกิดเหตุใกล้กับท่าเรือของเมือง ก่อนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง สามารถมองเห็นได้จากหลายจุดของเมือง
2. เพลิงลุกโหม
การระเบิดนอกจากกลุ่มควันแล้ว ยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ในหลายจุดทั่วพื้นที่เกิดเหตุ เป็นอุปสรรคต่อการค้นหาผู้ได้รับบางเจ็บ เสียชีวิต และสูญหาย
3. เร่งควบคุมเพลิง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเลบานอนจึงต้องเร่งส่งกำลังตรงเข้าพื้นที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมเพลิงที่เกิดจากการระเบิด แต่มีนักดับเพลิงอย่างน้อย 10 ราย สูญหายระหว่างการค้นหา
4. ยากลำบาก
แต่เปลวเพลิงที่โหมแรงก็ส่งผลให้การควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก ประกอบกับมีกองเพลิงหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ต้องรอการสนับสนุนทางอากาศ
5. เพลิงสงบบางจุด เร่งรุดช่วยเหลือ
เมื่อเพลิงสงบลงในบางจุด เจ้าหน้าที่และพลเมืองอาสาสมัคร เร่งค้นหาผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และผู้ที่อาจติดอยู่ตามซากปรักหักพังต่าง ๆ
6. ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยเหลือและปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิด โดยมีทั้งผู้ที่บาดเจ็บจากแรงระเบิดโดยตรง ถูกวัตถุต่าง ๆ ล้มทับ หรือถูกแรงระเบิดอัดไปกระแทกกับสิ่งต่าง ๆ
7. ลำเลียงผู้บาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และพลเมือง ทำการค้นหาและช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
8. ผลกระทบวงกว้าง
ความรุนแรงของระเบิด กินอาณาเขตกว่า 20 กม. ทำให้รถยนต์จำนวนมากได้รับความเสียหาย บางส่วนถูกแรงระเบิดพัดปลิวจนไปกระแทกหรือหล่นทับรถคันอื่น
9. กระจกอาคารแตกทั่วกรุง
ขณะที่อาคารจำนวนไม่น้อยเช่นกันได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด โดยเฉพาะอาคารที่เป็นกระจก
10. แม้อยู่ห่างก็ได้รับผลกระทบ
เช่นเดียวกับร้านค้าต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด
11. ร่วมแรงร่วมใจ
พลเมืองบางส่วนลงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการค้นหาและลำเลียงผู้ป่วยไปรับการปฐมพยาบาลและการรักษา
12. ซากปรักหักพัง
โครงสร้างของโกดังบนท่าเรือที่ยังหลงเหลืออยู่หลังเหตุระเบิด โดยเบื้องต้นมีข้อมูลระบุว่า สาเหตุการระเบิดอาจมาจากโกดังที่เก็บสารแอมโมเนียมไนเตรท (Ammonium Nitrate) ไว้ตั้งแต่ปี 2014 และไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม
13. สูญเสีย
นอกจากความเสียกายต่อชีวิตแล้ว เหตุระเบิดท่าเรือกรุงเบรุตครั้งนี้ยังความความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนและภาคเอกชน
14. ไร้ทิศทาง
ความเสียหายต่อท่าเรืออาจส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออก ซึ่งรัฐบาลเลบานอนได้ออกมาตรการรับมือ ไม่ให้การน้ำเข้าและส่งออกต้องหยุดชะงักหรือไร้ทิศทาง
15. เศษซาก
สภาพโดยรวมของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิด
16. ใกล้ค่ำ
แม้ใกล้ค่ำเข้าไปทุกที แต่ยังมีเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาในหลายจุดของพื้นที่เกิดเหตุ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งมือ เพราะหากมืดค่ำลงเมื่อใด นั่นหมายถึงประสิทธิภาพการค้นหาและช่วยเหลือจะลดลงอย่างมาก
17. กองทัพช่วยประชาชน
กองทัพเลบานอนส่งเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่ช่วยเหลือในการค้นหาผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และผู้สูญหายด้วย
18. แข่งกับเวลา
เนื่องจากการระเบิดทำให้มีผู้สูญหายจำนวนมากที่ไม่สามารถระบุตัวเลขได้ รัฐบาลจึงระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนมาช่วยในการค้นหา และที่สำคัญคือ “ต้องแข่งกับเวลา”
19. ช่วยเหลือประชาชน
ภาพเจ้าหน้าที่ทหารเลบานอนลำเลียงผู้บาดเจ็บไปรับการปฐมพยาบาล
20. “ผมปลอดภัยดี”
ชายคนหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดและมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก กำลังพูดคุยโทรศัพท์ คาดว่าเป็นการติดต่อบุคคลใกล้ชิดเพื่อแจ้งข่าวและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
21. ร่วมด้วยช่วยกัน
พลเมืองต่างพาร่วมแรงร่วมใจกันให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิด
22. สะเทือนถึงต่างประเทศ
การระเบิดครั้งใหญ่ในเลบานอนนี้ สร้างแรงระเบิดสะเทือนไปถึงประเทศไซปรัส ซึ่งห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ขณะที่ในเมืองหลวงก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 3.3 แมกนิจูด
23. ก่อนเกิดเหตุ
ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณพื้นที่ท่าเรือก่อนเกิดเหตุระเบิด
24. อพยพลงจากเรือ
ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้น มีเรือหลายลำเทียบท่าอยู่ใกล้เคียง อาทิ เรือสัญชาติอิตาลี เรือของยูเอ็น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปช่วยเหลืออพยพผู้คนบนเรือลงมา
25. ครอบครัวผู้บาดเจ็บ
ขณะที่ผู้บาดเจ็บบางส่วนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ดังเช่นครอบครัวนี้ที่ได้รับบาดเจ็บเกือบทั้งครอบครัว
26. สาหัสหลายสิบ
จากเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ มากกว่า 4,000 คน ในจำนวนผู้บาดเจ็บ มี 60 คนอยู่ภาวะวิกฤต
27. โรงพยาบาลไม่พอรักษา
โรงพยาบาลหลายแห่งต้องรองรับผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จนไม่สามารถรับผู้บาดเจ็บเพิ่มได้อีก ทำได้เพียงปฐมพยาบาลเบื้องต้นและให้ผู้บาดเจ็บเดินทางไปโรงพยาบาลอื่น หรือรอคิวการรักษา โดยจากการระเบิดทำให้มีโรงพยาบาล 3 แห่งถูกทำลาย 2 แห่งได้รับความเสียหาย มีพยาบาลเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย
28. บาดเจ็บเกินรองรับ
บุคลากรการแพทย์จำนวนหนึ่งต้องออกมาทำการรักษาและปฐมพยาบาลนอกอาคาร เนื่องจากมีพื้นที่ไม่เพียงพอจากการที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยโรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องรองรับผู้ป่วยทีเดียวถึง 400-500 คน
29. ถนนสนธยา
ขณะที่การจราจรบริเวณใกล้เคียงถูกปิดชั่วคราวเพื่อให้สะดวกต่อการให้ความช่วยเหลือ โดยบนถนนยังคงทิ้งร่องรอยความเสียหายที่เกิดจากการระเบิดไว้ด้วย โดยเฉพาะเศษซากต่าง ๆ ที่ถูกทำลายและปลิวมาตามแรงระเบิด
30. การสนับสนุนทางอากาศ
นักดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปดับเปลวเพลิงบางจุดได้ จึงมีการส่งเฮลิคอปเตอร์มาช่วยควบคุมเพลิงอีกทาง
31. ค่ำแล้วไฟยังโหม
เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้ว เปลวไฟยังคงลุกโชนอยู่ในบางจุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถหยุดทำงานได้ ไม่เช่นนั้นเปลวเพลิงอาจลุกลามสร้างความเสียหายมากกว่าเดิม
32. ไม่อาจหยุดพัก
ขณะเดียวกันรถพยาบาลและรถกู้ภัยก็ยังคงแล่นเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงเพื่อรอให้ความช่วยเหลือ
33. พร้อมให้การช่วยเหลือ
เนื่องจากยังมีการค้นพบตัวผู้บาดเจ็บอยู่เรื่อย ๆ แต่การระเบิดทำให้ไฟฟ้าในเมืองดับ การค้นหาจึงมีความล่าช้า
34. สู่สุคติ
นอกจากผู้บาดเจ็บ ก็ยังมีการค้นพบผู้เสียชีวิตเช่นกัน โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 78 คน
35. อาจล้มหายตายเพิ่ม
ทั้งนี้ การนับจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากยังมีผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บขั้นวิกฤตบางรายยังต้องเฝ้าดูอาการต่อไป
36. ภาวะฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรี ฮัซซัน ดิยาบ (Hassan Diab) ประกาศให้เมืองเบรุตอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ขอความร่วมมือประชาชนไม่ออกนอกเคหสถาน และตั้งคณะทำงานสืบสวนซึ่งต้องหาสาเหตุการระเบิดให้ได้ภายใน 5 วันหลังจากนี้
ร่วมเป็นกำลังใจให้ประชาชนในเมืองเบรุตผ่านพ้นวิกฤตและความเสียหายครั้งนี้ไปได้ด้วยดี และขอให้โลกใช้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ ถึงการเฝ้าระวังเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ภาพจาก: AFP