เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา อินสตาแกรมเปิดตัว “อิสตาแกรมรีลส์ (Instagram Reels)” หรือฟีเจอร์สร้างและแบ่งปันวิดีโอสั้น ๆ บนอินสตาแกรม
“แบน WeChat” สัญญาณไม่พึงปรารถนาต่อชาวจีนในสหรัฐฯ
"ทวิตเตอร์" สนใจซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ
ทรัมป์ลงนามแบน TikTok และ WeChat มีผลภายใน 45 วัน
รีลส์จะทำให้ผู้คนได้สร้างวิดีโอสนุก ๆ เพื่อแชร์กับเพื่อนหรือใครก็ได้บนอินสตาแกรม สามารถบันทึกและแก้ไขวิดีโอความยาว 15 วินาที พร้อมเสียง เอฟเฟกต์ และเครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
สำหรับการใช้ฟีเจอร์รีลส์นั้น ให้เลือกฟีเจอร์ที่ด้านล่างของกล้องอินสตาแกรม คุณจะเห็นเครื่องมือรังสรรค์คลิปวิดีโอมากมายทางด้านซ้ายของหน้าจอ เพื่อช่วยในการสร้างรีลส์ของคุณ ได้แก่:
เสียง: ค้นหาเพลงจากคลังเพลง และยังสามารถใช้เสียงต้นฉบับของคุณเองได้ด้วย
เอฟเฟกต์ AR: เอฟเฟกต์มากมายในแกลเลอรีจะทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับความหลากหลายและความสนุกสนาน
จับเวลาและการนับถอยหลัง: ตั้งเวลาเพื่อบันทึกคลิปของคุณแบบแฮนด์ฟรี เมื่อคุณกดบันทึกคุณจะเห็นการนับถอยหลัง 3-2-1 ก่อนที่การบันทึกจะเริ่มขึ้นตามระยะเวลาที่คุณเลือก
จัดแนว: จัดเรียงตำแหน่งจากคลิปก่อนหน้าก่อนบันทึกภาพถัดไป เพื่อช่วยสร้างการเปลี่ยนภาพที่ไร้รอยต่อ เช่น การเปลี่ยนชุด
ความเร็ว: เลือกเพื่อเพิ่มความเร็วหรือลดความเร็วบางส่วนของวิดีโอหรือเสียงที่คุณเลือก ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่พลาดจังหวะหรือสร้างวิดีโอสโลว์โมชัน
คุณสามารถบันทึกเป็นชุดคลิป (ทีละคลิป) ทั้งหมดในคราวเดียว หรือใช้การอัปโหลดวิดีโอจากแกลเลอรีของคุณ บันทึกคลิปแรกโดยกดปุ่มถ่ายภาพค้างไว้ คุณจะเห็นตัวชี้ความคืบหน้าที่ด้านบนของหน้าจอขณะบันทึก หยุดบันทึกเพื่อจบแต่ละคลิป
เมื่อถ่ายคลิปรีลส์เสร็จแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเลือกได้ว่าจะแชร์คลิปดังกล่าวให้เป็น “สาธารณะ” หรือเลือกให้เฉพาะฟอลโลเวอร์มองเห็นก็ได้ โดยไม่จำกัดว่าผู้ใช้คนอื่นจะมองเห็นคลิปของผู้ใช้บัญชีสาธารณะเท่านั้น แม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถโชว์คลิปให้โลกเห็นได้ผ่านช่องทาง Explore
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานเฉพาะใน 50 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยยังไม่ใช่หนึ่งในนั้น นอกจากนี้ กระแสหลังการเปิดตัวก็ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เมื่อความคล้ายคลึงกันบางอย่างทำให้ผู้คนมองว่า “นี่มันลอกเลียนแบบมาจาก TikTok ชัด ๆ”
โดย TikTok เป็นแพลตฟอร์มแชร์คลิปวิดีโอสนุก ๆ ที่แพร่หลายไปทั่วโลก มีผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านดาวน์โหลด แต่สถานการณ์ TikTok ในสหรัฐฯ ไม่สู้ดีนัก หลังทรัมป์ประกาศแบน TikTok และให้มีผลใน 45 วัน โดยอ้างเหตุผลเรื่องภัยความมั่นคงของประเทศและการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้หลายฝ่ายมองว่า อินสตาแกรมอาศัยช่วงจังหวะนี้ในการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ เพื่อมาแทนที่ TikTok อย่างน้อยก็ในสหรัฐฯ
ด้านทวิตเตอร์ของ TikTok ก็ออกมาแซวฟีเจอร์ใหม่ของอินสตาแกรมเช่นกัน โดยรีทวีตข้อความนำเสนอฟีเจอร์รีลส์ของอินสตาแกรม พร้อมข้อความว่า “อืม มันดูคุ้น ๆ นะ”
เควิน เมเยอร์ ผู้บริหารระดับสูงของ TikTok ออกมาโจมตีรีลส์ว่าเป็น “ผลิตภัณฑ์เลียนแบบ” ที่หวังใช้ประโยชน์จากผู้ใช้งานอินสตาแกรมกว่าหนึ่งพันล้านบัญชี
ทางด้านวิชัล ชาห์ รองประธานด้านผลิตภัณฑ์ของอินสตาแกรม ก็ยอมรับว่า รีลส์และ TikTok มีความคล้ายคลึงกัน แต่ระบุว่า “แรงบันดาลใจในการออกแบบมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
เบื้องต้น อินสตาแกรมยังไม่มีแผนที่จะให้ผู้ใช้งานรีลส์สามารถหารายได้จากการสร้างผลงานแต่อย่างใด